หมวดหมู่: Review

  • นกแอร์เลานจ์ (NokAir Lounge) หมุดหมายที่นั่งรอขึ้นเครื่องใหม่ ที่ไม่ได้มีดีแค่ความสบาย

    นกแอร์เลานจ์ (NokAir Lounge) หมุดหมายที่นั่งรอขึ้นเครื่องใหม่ ที่ไม่ได้มีดีแค่ความสบาย

    เลานจ์นกแอร์อยู่ที่ไหน ?

    เลานจ์นกแอร์ มีให้บริการเพียง 1 แห่ง ที่สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ Terminal 2 บริเวณทางเชื่อม Gate 41-46 และ Gate 50-56

    ใครเข้าเลานจ์นกแอร์ได้บ้าง ?

    ผู้โดยสารที่ซื้อบัตรที่นั่งประเภท Nok Max

    ตัวเลือกนี้จะคุ้มที่สุดเมื่อท่านต้องการจะโหลดกระเป๋า 25 KG เพราะการจองตั๋วแบบ Nok MAX จะทำให้ท่านได้รับสิทธิพิเศษทั้งน้ำหนักกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่อง (หากท่านซื้อน้ำหนักกระเป๋าแยก น้ำหนัก 25 KG ราคาที่หน้าเว็บเสนออยู่ที่ 630 บาท) อาหารอุ่นร้อน การเลือกที่นั่ง และได้เข้าเลานจ์ของนกแอร์โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ถ้าหากคุณไม่ได้ต้องการโหลดกระเป๋า ตัวเลือกนี้ไม่ตอบโจทย์ท่านอย่างแรง! เพราะราคาตั๋วจะบวกขึ้นสูงกว่าบัตรโดยสารคลาสปกติ

    ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาชิก Nok Fanclub ระดับ Nok Smile Plus

    วิธีการนี้คุ้มค่าที่สุด ดีที่สุด ประหยัดที่สุด เพราะหากท่านโดยสารนกแอร์เป็นประจำอยู่แล้ว และมีการสะสมสมาชิกนกแฟนคลับจนถึงขั้นสูงสุดนั้นคือ Nok Smile Plus ท่านจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าเลานจ์อัตโนมัติ

    ผู้โดยสารที่ซื้อบริการเสริม ห้องรับรองพร้อมกับตั๋วโดยสาร

    เหมาะสำหรับท่านที่อยากทดลองเข้าเลานจ์ โดยเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจองบัตรโดยสารที่ราคา 450 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และเด็กอยู่ที่ 300 บาท (สำหรับผู้โดยสารที่มีอายุ 2-12 ปีเท่านั้น )

    ผู้โดยสารที่ทำการ Walk-in เพื่อขอซื้อบริการห้องรับรอง

    วิธีการนี้ไม่คุ้มค่าที่สุด เพราะมีอัตราค่าบริการแพงกว่าการจองล่วงหน้าผ่านเว็บ 50 บาท โดยมีราคาสำหรับผู้ใหญ่ 500 บาท เด็กราคา 350 บาท (สำหรับผู้โดยสารที่มีอายุ 2-12 ปีเท่านั้น )

    บรรยากาศภายในนกแอร์เลานจ์ (NokAir Lounge)

    หลังจากเข้าเลานจ์มา อย่างแรกที่สะดุดตาก็คือไลน์อาหาร เต็มไปด้วยเบอร์เกอร์รี่ที่หลากหลาย ขนมปัง ครัวซอง เค้กกล้วยหอม ฯลฯ จัดเต็ม (ส่วนตัวเป็นขนมปังเลิฟเวอร์อยู่แล้วชอบทุกเมนูที่ทางนกแอร์เลือกมา)

    ยังมีอาหารร้อน ๆ เสิร์ฟ สำหรับวันนี้เมนูเสนอเป็นข้าวต้มหมู มาม่า พร้อมทั้ง กาแฟ น้ำอัดลม น้ำเย็น น้ำแร่ มีให้ท่านเลือกสรร

    หากเป็นช่วงบ่ายเลานจ์นกแอร์ก็จะปรับเปลี่ยนการเสิร์ฟจากขนมปังเป็นอาหาร

    สถานที่ของนกแอร์เลานจ์ตกแต่งได้สวยงามมาก ครบทุกฟังก์ชั่น ห้องประชุม ที่นั่งแบบแยกเดียว ที่นั่งเป็นกลุ่ม เบาะนุ่มสบาย พนักงานบริการดี

    อ้างอิงจากข่าวประชาสัมพันธ์ กลยุทธ์ที่นกแอร์สร้างเลานจ์แห่งนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์กับวิสัยทัศน์ใหม่ที่มุ่งสู่การเป็น สายการบินระดับพรีเมียม ซึ่งยังมีอีกหลายอย่างที่นกแอร์อยากทำ อย่างเช่นเพิ่มแผนการให้บริการระบบความบันเทิงผ่านการเชื่อมต่อไวไฟบนเครื่องบิน Inflight Entertainment* เป็นสิ่งที่น่าติดตามชมอย่างมากว่าสายการบินสัญชาติไทยรายนี้จะมีลูกเล่น หรือมีนวัตกรรมใดมาช่วงชิงผู้โดยสารได้อีกบ้าง

    โดยรวมของผมถือว่าประทับใจนกแอร์เลานจ์ อาหารอาจจะไม่เยอะจนโดดเด่นกว่าเลานจ์อื่น แต่เรื่องความสะดวกสบายของสถานที่ การบริการของพนักงานทำได้ดีมาก

    ที่มา: “นกแอร์” เปิดบริการ “เลานจ์” ที่ “ดอนเมือง” ยกระดับสู่สายการบินระดับพรีเมียม

    อัปเดต: 2 มกราคม 2566

  • Nok Smile Plus ขั้นสุดของความสบาย ตามสไตล์นกแอร์

    Nok Smile Plus ขั้นสุดของความสบาย ตามสไตล์นกแอร์

    สายการบินนกแอร์ มีโปรแกรมเก็บสะสมคะแนนสมาชิกในชื่อ “นกแฟนคลับ” เมื่อคุณบินกับนกแอร์ ทุก ๆ 5 บาทจะถูกคิดเป็น 1 คะแนน การเก็บสะสมคะแนนจะใช้เพื่อรับสิทธิ์ประโยชน์ และสิทธิพิเศษต่าง ๆ อาทิ การแลกคะแนนเป็นตั๋วเครื่องบิน นกชัวร์ (แลกประกัน) นกกระเป๋า (แลกน้ำหนักกระเป๋า) นกพรีเมียมซีท (แลกที่นั่งพรีเมียม) เป็นต้น

    สมาชิกนกแฟนคลับ (Nok Fan Club)

    สมาชิกทั้ง 4 ประเภทของนกแฟนคลับ

    สถานภาพสมาชิกนกแฟนคลับจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ NOK SKY, NOK STAR, NOK SMILE และ NOK SMILE PLUS โดยมียอดหรือคะแนนที่ต้องสะสมเพื่ออัปเกรดในแต่ละระดับดังนี้

    • NOK SKY -> สถานภาพสมาชิกระดับเริ่มต้น เมื่อสมัครสมาชิกนกแฟนคลับ ทุกท่านจะได้รับสิทธิ์นี้ทันที
    • NOK STAR -> เมื่อสะสมนกพอยท์ครบ 1,500 นกพอยท์ (ใช้จ่ายสำหรับการบินครบ 7,500 บาท) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม จะได้รับอัปเกรดเป็น NOK STAR ทันที
    • NOK SMILE -> เมื่อสะสมนกพอยท์ครบ 9,000 นกพอยท์ (ใช้จ่ายสำหรับการบินครบ 45,000 บาท) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม จะได้รับอัปเกรดจาก NOK STAR เป็น NOK SMILE ทันที สิทธิประโยชน์ในระดับนี้ที่เพิ่มมาคือ แถวเช็กอินพิเศษ (สนามบินดอนเมือง)
    • NOK SMILE PLUS -> เมื่อสะสมนกพอยท์ครบ 15,000 นกพอยท์ (ใช้จ่ายสำหรับการบินครบ 75,000 บาท) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม จะได้รับอัปเกรดจาก NOK SMILE เป็น NOK SMILE PLUS ทันที สิทธิประโยชน์ในระดับนี้ที่เพิ่มมาคือ แถวเช็กอินพิเศษ (สนามบินดอนเมือง) ที่นั่งนกพรีเมียมซีท และรับน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 10 กิโลกรัม

    โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม และเงื่อนไขได้ที่ https://www.nokair.com/Member/Benefit

    แถวเช็กอินพิเศษ (สนามบินดอนเมือง)

    แถวเช็กอินพิเศษ (Priority Lane) ของนกแอร์ที่สนามบินดอนเมือง จะถูกปูด้วยพื้นด้วยสีดำ และมีคำว่า “We Fly Smiles” อยู่ สำหรับสิทธิพิเศษนี้ต้องยอมรับว่าไม่ได้หวือหวาอะไร เพราะเงื่อนไขในการเข้าช่องพิเศษนี้ หลายคนสามารถใช้ได้ หากท่านเป็น นกสมายล์พลัส, ซื้อที่นั่งนกพรีเมี่ยมซีท, บินนกสบายไฟล์ท (ไฟล์ทที่เป็นเลข 1 หลัก เช่น DD001 DMK -> CNX) ยังรวมถึงบุคคลที่เป็นสมาชิกรัฐสภา, ผู้ถือบัตรโดยสารข้าราชการ, ลูกค้าองค์กร, หอการค้า, พระภิกษุ และผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ต่างก็สามารถใช้แถวเช็กอินพิเศษได้ทั้งหมด

    สิทธิ์ในขึ้นเครื่องก่อน (Priority Boarding)

    เป็นสิทธิพิเศษที่ผมชอบมาก สาเหตุที่ชอบขึ้นเครื่องก่อนเพราะว่าเราสามารถมั่นใจได้ว่ากระเป๋าที่เราถือขึ้นเครื่องจะมีที่เก็บอยู่ใกล้กับตัวเรา ไม่ต้องไปวางไว้ไกล

    น้ำหนักฟรี 10 กิโล พร้อมแท็ก Priority

    ได้น้ำหนักโหลดของทั้งหมด 10 กิโลกรัม โดยของทุกอย่างที่เราโหลดใต้ท้องเครื่องจะได้รับแท็ก “Priority” ดังนั้นหมายความว่าเมื่อเราถึงสนามบินปลายทาง เราจะได้รับกระเป๋าก่อนคนอื่น (แต่หากมี Priority หลายคน อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ว่ากระเป๋าเราจะมาเป็นเซ็ทแรก ๆ อย่างแน่นอน)

    นกแอร์เลานจ์ (NokAir Lounge)

    สถานที่พักผ่อนก่อนขึ้นเครื่อง เพียบพร้อมด้วยความสบายและอาหารที่อร่อย สิทธิพิเศษเฉพาะ Nok Smile Plus เข้าใช้บริการเลานจ์นกแอร์ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อ่านรีวิวฉบับเต็มที่ นกแอร์เลานจ์ (NokAir Lounge) หมุดหมายที่นั่งรอขึ้นเครื่องใหม่ ที่ไม่ได้มีดีแค่ความสบาย

    ที่นั่งนกพรีเมียมซีท (Nok Premium Seat)

    สิ่งสุดท้ายคือหากในเที่ยวบินนั้นมีที่นั่งนกพรีเมียมซีท (Nok Premium Seat) ว่าง ตอนเช็กอินเราสามารถขอย้ายจากที่นั่งอื่นมายังที่นั่งนกพรีเมียมซีทได้

    จุดเด่นของนกพรีเมียมซีทก็คงหนีไม่พ้น ตำแหน่งที่นั่งซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของเครื่อง (เครื่องแต่ละรุ่นมีตำแหน่งในการวางนกพรีเมียมซีทไม่เหมือนกัน) การทำเบาะรองคอเป็นสีเหลือง ปักคำว่า “PREMIUM” พร้อมตราสัญลักษณ์ของนกแอร์ ที่นั่งกว้างสุดถึง 31 นิ้ว

    สรุป

    ความประทับใจอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรมาก ทั้งช่องทางพิเศษในการเช็กอิน หรือลำดับการเรียกขึ้นเครื่อง แต่สิ่งที่ประทับใจอยู่ยังคงเป็นเรื่องของการเลือกที่นั่ง และให้น้ำหนักกระเป๋าฟรี 10 กิโลกรัม

    อัปเดต: 5 กุมภาพันธ์ 2566

    1. https://www.nokair.com/Member/Benefit
    2. https://e.dmg.st/Gcq
  • รีวิวที่นั่งประตูทางออกฉุกเฉิน (Emergency exit) – Thai Lion Air

    รีวิวที่นั่งประตูทางออกฉุกเฉิน (Emergency exit) – Thai Lion Air

    กระผมเดินทางกลับจากการศึกษาดูงานกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 37 พัทลุงเกมส์ ขากลับเลือกใช้บริการของสายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบินที่ SL 827 เดินทางจากท่าอากาศยานตรัง (TST) ไปยัง ท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK)

    ซึ่งการเดินทางภายในวันนี้กระผมโชคดี ได้ที่นั่งบริเวณประตูทางออกฉุกเฉิน ซึ่งข้อเด่นที่เห็นได้ชัดของสายการบิน Lion Air คือระยะห่างระหว่างที่นั่งกว้างกว่าแถวบริเวณอื่น (ซึ่งถ้าหากเทียบกับสายการบินไทยสมายล์ รีวิวที่นั่งทางออกฉุกเฉิน (Emergency Exit) – DMG.ST ส่วนตัว ‘รู้สึก’ ระยะการวางเท้าไม่ต่างกันมากเมื่อเทียบกับแถวอื่น) และทำให้ท่านสามารถที่จะเหยียดขาได้สุด สำหรับที่นั่งของกระผมในวันนี้คือ 17C ติดทางเดิน

    เมื่อขึ้นเครื่องเสร็จเรียบร้อย ก่อนการสาธิตความปลอดภัยบนเครื่อง จะมีพนักงานมาให้คำแนะนำและอธิบายกฏกติกาต่าง ๆ สำหรับผู้โดยสารที่นั่งแถวนี้ พร้อมแนะนำให้ศึกษาคู่มือความปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของลูกเรือได้อย่างรวดเร็ว

    บริเวณด้านบนของ ที่นั่งประตูทางออกฉุกเฉิน

    เงื่อนไขของผู้โดยสารที่ไม่สามารถนั่งติดกับหน้าต่างฉุกเฉินได้
    ประกอบไปด้วย

    1. ผู้โดยสารเด็กและเยาวชนที่เดินทางตามลำพัง
    2. ผู้โดยสารเด็กที่มีอายุ ต่ำกว่า 16 ปี
    3. เด็กทารก
    4. ผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์
    5. ผู้โดยสารที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ปกติหรือบุคคลทุพพลภาพ
    6. ผู้โดยสารที่อยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์ เช่น ใช้เครื่องช่วยฟัง ใช้ไม้เท้า เป็นต้น
    7. ผู้โดยสารที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ และไม่สามารถทำความเข้าใจในข้อมูลที่ระบุอยู่ในคู่มือความปลอดภัย
    8. ผู้โดยสารที่ไม่ได้รับอนุญาตผ่านพิธีการเข้าเมืองของประเทศปลายทาง รวมถึงผู้ที่ถูกเนรเทศออกจากประเทศซึ่งเดินทางมากับเจ้าพนักงานผู้เกี่ยวข้อง
    9. ผู้โดยสารถูกจับกุม จองจำ หรือนักโทษ
    10. ผู้โดยสารสูงอายุ หรือผู้โดยสารที่ไม่สามารถช่วยเหลือลูกเรือเปิดหน้าต่างในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินได้
    11. ผู้โดยสารที่มีขนาดร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว (น้ำหนักมากจนไม่สามารถใช้เข็มขัดนิรภัยแบบปกติได้)

    ข้อเสียของเก้าอี้ที่นั่งทางออกฉุกเฉินแถวที่ 17 คือไม่สามารถที่จะเอนเบาะได้ หากท่านต้องการเก้าอี้ที่เอนเบาะได้ และยังเหยียดขาได้กว้าง แนะนำให้นั่งที่นั่งทางออกฉุกเฉินแถวที่ 18

    ลาไปด้วยภาพบรรยากาศบริเวณทางออกขึ้นเครื่องของสนามบินตรัง ซึ่งท่านสามารถที่จะมองอากาศยานได้ใกล้ชิดมากกว่าที่เคย

  • การเพิ่มโพลลงในอีเมล Outlook แบบกดโหวตได้เลย ไม่ต้องเปิดลิงก์ใหม่

    การเพิ่มโพลลงในอีเมล Outlook แบบกดโหวตได้เลย ไม่ต้องเปิดลิงก์ใหม่

    อยากทำโพลส่งทางอีเมล ให้ลูกค้าหรือพนักงานโหวตจะทำอย่างไรได้บ้าง? หากเป็นสมัยก่อนเราจะต้องใช้บริการ Microsoft Form, Google Form, Survey monkey, Typeform หรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ จากนั้นจึงนำลิงก์โพลแนบลงไปในอีเมล

    เพราะเราสามารถเพิ่มโพลแนบไปกับอีเมลของ Outlook ได้ ที่สำคัญฝั่งผู้รับสามารถเปิดอีเมลและกดโหวตได้ทันที ไม่ต้องเปิดลิงก์ใหม่ หรือแท็บใหม่

    วิธีการเพิ่มโพลในอีเมล

    1.สร้างอีเมลใหม่ “New Email”

    2.คลิกที่เมนู “Insert” จากนั้นเลือก “Poll”

    3.ระบบจะเปิดเมนู Polls ขึ้นมาด้านขวา คุณสามารถตั้งคำถามโพลได้ทันทีจากเมนูนี้ (ระบบรองรับคำถาม 1 คำถาม และคำตอบ 2 ประเภท คือ Single Choice และ Multiple Choice)

    4.จากนั้นคลิกที่เมนู “Next” (หากเป็นคำถามประเภท Multiple Choice อย่าลืมกดเปิดเมนู Multiple answers ด้วย)

    5.ระบบจะพรีวิวคำถาม หากพึงพอใจแล้ว สามารถคลิกที่ “Add to email” เพื่อแนบโพลดังกล่าวลงในเนื้อหาของอีเมล หากต้องการแก้ไขสามารถกดคลิกที่ “Edit”

    6.คำถามที่เป็นโพลจะถูกเพิ่มลงในอีเมล หากตรวจสอบข้อมูลถูกต้องเรียบร้อย สามารถกดส่งออกอีเมลได้ตามปกติ

    7.ตัวอย่างการแสดงผลอีเมลของฝั่งผู้รับ สามารถกดโหวตและเห็นผลลัพธ์ได้ทันที

    ข้อจำกัด

    ระบบสามารถแสดงโพลในฝั่งผู้รับที่เปิดด้วยแอปพลิเคชัน Outlook เท่านั้น หากเป็นผู้ให้บริการรายอื่น Google จะไม่สามารถแสดงผลได้ รวมถึงบริการ Outlook.com ก็ไม่สามารถที่จะแสดงผลได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ระบบจึงได้แนบลิงก์สำหรับโหวตไว้ให้ ผู้รับอีเมลสามารกดคลิกที่ลิงก์เพื่อโหวตได้

    ตัวอย่างอีเมลของฝั่งผู้รับที่เป็น Google
    ตัวอย่างอีเมลฝั่งผู้รับที่เป็น Outlook.com
  • [รีวิว] My Flight Log สมุดบันทึกการเดินทางสุดเก๋ สะสมตราประทับและลายเซ็นของนักบินไทยสมายล์

    [รีวิว] My Flight Log สมุดบันทึกการเดินทางสุดเก๋ สะสมตราประทับและลายเซ็นของนักบินไทยสมายล์

    🎵 ฝากดวงใจ พี่ลอยล่องไปบนนภา สุดขอบฟ้า หัวใจพี่จะไปถึง… จุดเด่นของไทยสมายล์ นอกจากไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋า การเลือกที่นั่ง คุณภาพงานบริการ ความสะอาดบนเครื่องบินแล้ว ก็คงหนี้ไม่พ้นเพลง แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร ที่ฟังกี่ครั้ง ก็ประทับใจทุกครั้ง นอกจากความหมายจะไพเราะ ก็ยังทำให้หวนนึกถึงโฆษณา Smile for life 3 ที่ทำให้ผมน้ำตาซึมเมื่อได้ชมโฆษณาชิ้นนี้ครั้งแรก

    ไฟท์ล่าสุดของผม คือบินจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ โดยการเดินทางครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่ว่า ผมและแฟนของผมได้รับสมุด My Flight Log จากสายการบิน ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นกิมมิคที่เจ๋งมาก เพราะในสมุดมีกิจกรรมเก็บสะสมตราประทับประจำเครื่องบิน (ไทยสมายล์มีเครื่องบิน 20 ลำ*) เพื่อแลกของรางวัล เรายังได้ลายเซ็นกัปตันประจำเที่ยวบินนั้นเก็บไว้ด้วย

    ทำอย่างไร ถึงจะได้สมุดเล่มนี้ ? สมุดเล่มนี้สามารถขอได้จากลูกเรือตอนขึ้นเครื่องครับ มีจำนวนจำกัด ไม่สามารถสำรองหรือจองได้ทั้งสิ้น

    สมุดจะมีอยู่ทั้งหมดสองสี คือสีฟ้าและสีส้ม เลือกไม่ได้นะครับ ลูกเรือจะเลือกมาให้เรา

    ได้เวลาเปิดดูสมุดแล้วว่าข้างในมีอะไรบ้าง หน้าแรกเปิดมาปุ๊ปเจอบันทึกการเดินทางของจริง ระบุละเอียดยิบ วันที่ เวลา สายการบิน เลขไฟท์ รหัสทะเบียน ชื่อเครื่องบิน ต้นทาง ปลายทาง เวลา พร้อมทั้งลายเซ็นนักบิน ผู้ช่วยนักบิน ลูกเรือต่าง ๆ ครบทั้งลำ มีข้อความสุดน่ารักจากลูกเรือ

    ข้อความทั้งหมดที่อยู่ในสมุด เกิดจากลายมือของพนักงานจริง ๆ ไม่ได้มีการพิมพ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

    อีกหนึ่งหน้าสำคัญ นั้นก็คือหน้าสะสมตราประทับชื่อเครื่องบิน ซึ่งมีช่องให้ต้องสะสมถึง 20 ช่อง ครบตามจำนวนเครื่องบินทั้ง 20 ลำ

    สะสมครบตามจำนวนทุก 5, 10, 15, 20 มีแลกรางวัลด้วย

    หน้าสุดท้ายสุดน่ารัก เป็นสติ๊กเกอร์กัปตัน และลูกเรือ สวยจนไม่กล้าหยิบขึ้นมาใช้

    ท้ายที่สุดขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเดินทางครับ ขึ้นไทยสมายล์ครั้งหน้า อย่าลืมขอ My Flight Log จากลูกเรือนะครับ

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กัปตันไฟซอล บิน กิน เที่ยว Captain Faisal
    ภาพ: Damrongsak Sattabut, Chaichana Kulworatit

  • ไม่ต้องห่วงเรื่องไฟล์บันทึกการประชุมบน Teams หายจากนโยบายใหม่ ให้ Power Automate จัดการสำรองอัตโนมัติ

    ไม่ต้องห่วงเรื่องไฟล์บันทึกการประชุมบน Teams หายจากนโยบายใหม่ ให้ Power Automate จัดการสำรองอัตโนมัติ

    หลังจากประกาศของ Microsoft ฉบับที่ MC274188 เรื่อง (อัปเดต) ไฟล์บันทึกการประชุมบน Teams หมดอายุอัตโนมัติใน OneDrive และ SharePoint ซึ่งมีเนื้อหาใจความเกี่ยวกับการเพิ่มวันหมดอายุของไฟล์บันทึกการประชุมผ่านโปรแกรม Microsoft Teams

    โดยนโยบายใหม่นี้ ไฟล์บันทึกการประชุมจะหมดอายุอัตโนมัติใน 120 วัน หลังจากที่มีการบันทึกหากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ยกเว้น License A1 จะได้รับการตั้งค่าเริ่มต้นสูงสุดที่ 30 วัน (หากไฟล์ถูกลบออกแล้ว เราจะสามารถกู้คืนไฟล์จากถังรีไซเคิลได้นานถึง 90 วัน) นโยบายดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อไฟล์เก่าที่ได้มีการบันทึกก่อนหน้านี้

    ดังนั้นวันนี้เราจึงจะประยุกต์ใช้เครื่องมือ Power Automate เพื่อสั่งการให้ย้ายไฟล์บันทึกการประชุมจากโฟลเดอร์ Recording ไปยังโฟลเดอร์ใหม่อัตโนมัติหลังการประชุมเสร็จสิ้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะทำให้ตัวกำหนดวันหมดอายุของไฟล์ไม่ทำงาน

    เริ่มใช้ Power Automate

    1. เข้าสู่เว็บไซต์ Power Automate | Microsoft Power Platform

    2. จากนั้นกดคลิก Sign In เพื่อเข้าสู่ระบบ

    3. กดคลิกที่เมนู Templates จากนั้นระบุคีย์เวิร์ดในช่องค้นหาว่า “OneDrive Move File” กดค้นหา หลังจากนั้นให้คลิกที่ Template แรกที่ปรากฏ ชื่อเทมเพลตเต็ม ๆ ว่า “Move workfiles form one folder to other folder in OneDrive for Business”

    4. หลังจากกดคลิกเรียบร้อย ให้ตรวจสอบการอนุญาตให้ Power Automate ให้สามารถเข้าถึง OneDrive ของท่านได้ จากนั้นคลิก Continue

    5. ท่านจะพบกับหน้าต่างดังนี้ ให้พักไว้ก่อน

    6. ให้ท่านเปิดแท็บใหม่ขึ้นมา และเข้าสู่ OneDrive for Business ของท่าน เพื่อดำเนินการสร้างโฟลเดอร์จัดเก็บบันทึกการประชุมใหม่ ดังตัวอย่าง ได้มีการสร้างโฟลเดอร์ RecordingBackup เพิ่มขึ้นมา จากเดิมมีเพียงโฟลเดอร์ Recordings ซึ่งสร้างอัตโนมัติจาก Teams อยู่แล้ว เมื่อสร้างโฟลเดอร์สำรองเสร็จเรียบร้อย กลับไปเปิดหน้า Power Automate ที่ค้างไว้

    7. ดำเนินการตั้งค่าที่กล่องแรก When a file is created ให้กดเลือกตำแหน่งฟอเดอร์ โดยคลิกที่หมายเลข 1 จากนั้นเลือกโฟลเดอร์ที่มีการจัดเก็บไฟล์การประชุมของท่าน ดังตัวอย่างจะกดคลิกที่หมายเลข 2 ชื่อโฟลเดอร์ว่า Recordings (บางองค์กรอาจมีการตั้งชื่อโฟลเดอร์บันทึกการประชุมเป็นชื่ออื่น โปรดตรวจสอบและเลือกให้ตรงกับโฟลเดอร์ที่มีการบันทึกของท่าน)

    8. หน้าตากล่องแรก When a file is created เมื่อตั้งค่าโฟลเดอร์ต้นทางเรียบร้อย จะปรากฏดังภาพ

    9. จากนั้นไปตั้งค่าต่อที่กล่องที่ 2 Create file ให้ท่านทำคล้ายกับขั้นตอนที่ 7 แต่เปลี่ยนโฟลเดอร์เป็นโฟลเดอร์ปลายทาง ซึ่งในที่นี้ได้เลือกโฟลเดอร์ RecordingsBackup

    10. กล่องที่ 3 เป็นคำสั่งลบไฟล์บันทึกการประชุมเดิมทิ้ง หลังจากที่มีการโอนย้ายไฟล์ไปยังที่ใหม่เสร็จเรียบร้อย ซึ่งท่านจะลบกล่องนี้ออกหรือไม่ก็ได้ หากท่านไม่ลบออก ไฟล์บันทึกการประชุมของท่านจะย้ายไปอยู่ที่ใหม่เพียงที่เดียว ซึ่งมีข้อเสียคือ สมาชิกท่านอื่นในห้องประชุม จะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์บันทึกการประชุมของท่านได้อีก โดยจะแสดงผลดังภาพที่ 11

    แต่หากท่านต้องการให้ผู้เข้าร่วมประชุมท่านอื่นยังคงสามารถเข้าถึงไฟล์บันทึกการประชุม (โดยไฟล์นี้จะมีวันหมดอายุตามนโยบายใหม่) ท่านสามารถลบกล่องที่ 3 Delete file ออกได้ทันที

    ภาพที่ 11 หากคงการตั้งค่าของกล่องที่ 3 Delete File ไว้ ผู้เข้าร่วมประชุมท่านอื่นจะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ได้

    11. หลังจากตั้งค่าทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย สามารถกด “Save” ได้ทันที

    ทดลองใช้งาน

    1. สร้างการประชุม Teams และบันทึกการประชุมตามปกติ

    2. จากนั้นจบการประชุม และตรวจสอบโฟลเดอร์ใหม่ว่ามีการโอนย้ายไฟล์อย่างถูกต้อง เรียบร้อยหรือไม่ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการให้ Power Automate จัดการสำรองอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไฟล์บันทึกการประชุมบน Teams หาย

    สำหรับสถาบันการศึกษาที่สนใจโซลูชัน Office 365 สามารถติดต่อได้ที่ลานนาคอม
    Email : [email protected]
    Line Official Account: https://line.me/ti/p/@lannacom