หมวดหมู่: Featured

  • นกแอร์เลานจ์ (NokAir Lounge) หมุดหมายที่นั่งรอขึ้นเครื่องใหม่ ที่ไม่ได้มีดีแค่ความสบาย

    นกแอร์เลานจ์ (NokAir Lounge) หมุดหมายที่นั่งรอขึ้นเครื่องใหม่ ที่ไม่ได้มีดีแค่ความสบาย

    เลานจ์นกแอร์อยู่ที่ไหน ?

    เลานจ์นกแอร์ มีให้บริการเพียง 1 แห่ง ที่สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ Terminal 2 บริเวณทางเชื่อม Gate 41-46 และ Gate 50-56

    ใครเข้าเลานจ์นกแอร์ได้บ้าง ?

    ผู้โดยสารที่ซื้อบัตรที่นั่งประเภท Nok Max

    ตัวเลือกนี้จะคุ้มที่สุดเมื่อท่านต้องการจะโหลดกระเป๋า 25 KG เพราะการจองตั๋วแบบ Nok MAX จะทำให้ท่านได้รับสิทธิพิเศษทั้งน้ำหนักกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่อง (หากท่านซื้อน้ำหนักกระเป๋าแยก น้ำหนัก 25 KG ราคาที่หน้าเว็บเสนออยู่ที่ 630 บาท) อาหารอุ่นร้อน การเลือกที่นั่ง และได้เข้าเลานจ์ของนกแอร์โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ถ้าหากคุณไม่ได้ต้องการโหลดกระเป๋า ตัวเลือกนี้ไม่ตอบโจทย์ท่านอย่างแรง! เพราะราคาตั๋วจะบวกขึ้นสูงกว่าบัตรโดยสารคลาสปกติ

    ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาชิก Nok Fanclub ระดับ Nok Smile Plus

    วิธีการนี้คุ้มค่าที่สุด ดีที่สุด ประหยัดที่สุด เพราะหากท่านโดยสารนกแอร์เป็นประจำอยู่แล้ว และมีการสะสมสมาชิกนกแฟนคลับจนถึงขั้นสูงสุดนั้นคือ Nok Smile Plus ท่านจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าเลานจ์อัตโนมัติ

    ผู้โดยสารที่ซื้อบริการเสริม ห้องรับรองพร้อมกับตั๋วโดยสาร

    เหมาะสำหรับท่านที่อยากทดลองเข้าเลานจ์ โดยเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจองบัตรโดยสารที่ราคา 450 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และเด็กอยู่ที่ 300 บาท (สำหรับผู้โดยสารที่มีอายุ 2-12 ปีเท่านั้น )

    ผู้โดยสารที่ทำการ Walk-in เพื่อขอซื้อบริการห้องรับรอง

    วิธีการนี้ไม่คุ้มค่าที่สุด เพราะมีอัตราค่าบริการแพงกว่าการจองล่วงหน้าผ่านเว็บ 50 บาท โดยมีราคาสำหรับผู้ใหญ่ 500 บาท เด็กราคา 350 บาท (สำหรับผู้โดยสารที่มีอายุ 2-12 ปีเท่านั้น )

    บรรยากาศภายในนกแอร์เลานจ์ (NokAir Lounge)

    หลังจากเข้าเลานจ์มา อย่างแรกที่สะดุดตาก็คือไลน์อาหาร เต็มไปด้วยเบอร์เกอร์รี่ที่หลากหลาย ขนมปัง ครัวซอง เค้กกล้วยหอม ฯลฯ จัดเต็ม (ส่วนตัวเป็นขนมปังเลิฟเวอร์อยู่แล้วชอบทุกเมนูที่ทางนกแอร์เลือกมา)

    ยังมีอาหารร้อน ๆ เสิร์ฟ สำหรับวันนี้เมนูเสนอเป็นข้าวต้มหมู มาม่า พร้อมทั้ง กาแฟ น้ำอัดลม น้ำเย็น น้ำแร่ มีให้ท่านเลือกสรร

    หากเป็นช่วงบ่ายเลานจ์นกแอร์ก็จะปรับเปลี่ยนการเสิร์ฟจากขนมปังเป็นอาหาร

    สถานที่ของนกแอร์เลานจ์ตกแต่งได้สวยงามมาก ครบทุกฟังก์ชั่น ห้องประชุม ที่นั่งแบบแยกเดียว ที่นั่งเป็นกลุ่ม เบาะนุ่มสบาย พนักงานบริการดี

    อ้างอิงจากข่าวประชาสัมพันธ์ กลยุทธ์ที่นกแอร์สร้างเลานจ์แห่งนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์กับวิสัยทัศน์ใหม่ที่มุ่งสู่การเป็น สายการบินระดับพรีเมียม ซึ่งยังมีอีกหลายอย่างที่นกแอร์อยากทำ อย่างเช่นเพิ่มแผนการให้บริการระบบความบันเทิงผ่านการเชื่อมต่อไวไฟบนเครื่องบิน Inflight Entertainment* เป็นสิ่งที่น่าติดตามชมอย่างมากว่าสายการบินสัญชาติไทยรายนี้จะมีลูกเล่น หรือมีนวัตกรรมใดมาช่วงชิงผู้โดยสารได้อีกบ้าง

    โดยรวมของผมถือว่าประทับใจนกแอร์เลานจ์ อาหารอาจจะไม่เยอะจนโดดเด่นกว่าเลานจ์อื่น แต่เรื่องความสะดวกสบายของสถานที่ การบริการของพนักงานทำได้ดีมาก

    ที่มา: “นกแอร์” เปิดบริการ “เลานจ์” ที่ “ดอนเมือง” ยกระดับสู่สายการบินระดับพรีเมียม

    อัปเดต: 2 มกราคม 2566

  • Office Insider ที่สุดของเอกสิทธิ์ เข้าถึงและทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร

    Office Insider ที่สุดของเอกสิทธิ์ เข้าถึงและทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร

    Office Insider คืออะไร ?

    โปรแกรมพิเศษจาก Microsoft ที่จะมอบเอกสิทธิ์ในการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ของโปรแกรมตระกูล Office ประกอบไปด้วย Word, Excel และ PowerPoint ก่อนใครเพื่อน นอกจากนั้นเรายังสามารถฟีดแบ็ก ติชม ส่งเสียงหา Microsoft เกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้งาน หรือการพบบัคต่าง ๆ เพื่อให้เวอร์ชั่นเต็มที่เขาจะปล่อย ถูกใจผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มากที่สุด

    Office Insider มีกี่ระดับ

    ระดับของ Office Insider มีทั้งหมด 2 ระดับ ซึ่งมีข้อแตกต่าง ระยะเวลาในการอัปเดตและรายละเอียดดังนี้

    • เบต้า (Beta Channel) อัปเดตเร็วกว่า ถี่กว่า เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร
      สายเร็วต้องชอบ! เพราะ Beta Channel จะทำให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์และความสามารถใหม่ ๆ ได้รวดเร็วมากที่สุด เร็วถึงขนาดขั้นที่ว่า Microsoft ประกาศฟีเจอร์ใหม่ปุ๊ป เตรียมกดปุ่มอัปเดตได้เลย
    • ช่องทางปัจจุบัน พรีวิว (Current Channel (Preview)) เสถียรกว่า ไม่อัปเดตบ่อยให้รำคาญใจ
      สายมั่นใจ อัปเดตไม่บ่อย ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง มีความเสถียรสูงและความเสี่ยงพบเจอบัคน้อยกว่ารุ่น Beta

    เข้าร่วมอย่างไร ?

    สำหรับอุปกรณ์ Windows ให้เปิดโปรแกรม Office ขึ้นมาหนึ่งโปรแกรม (ในรูปภาพสาธิตโดยใช้โปรแกรม Microsoft Word) จากนั้นกดคลิกที่เมนู File > Account > Office Insider > Change Channel เลือกระดับ Insider ที่คุณต้องการได้เลย

    หากเมนูดังกล่าวไม่ขึ้น อาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ให้ตรวจสอบรุ่นและลายเซ็น รวมถึงนโยบายขององค์กรที่คุณใช้ หากคุณยอมรับความเสี่ยงได้ คุณสามารถแก้ไขค่าใน Registry เพื่อบังคับให้ระบบแสดงผลเมนู Insider โดยสามารถอ่านรายละเอียดวิธีการทำ รวมถึงดาวน์โหลดไฟล์ Config ได้จากบทความ Switching between Microsoft 365 Apps for Business/Enterprise, Current, Preview and Beta Channel (Office Insider) without re-installing – MSOutlook.info

    Office Insider มีใช้ให้งานในแอปและระบบปฏิบัติการใดบ้าง ?

    ที่มา: Handbook (office.com)

  • [รีวิว] My Flight Log สมุดบันทึกการเดินทางสุดเก๋ สะสมตราประทับและลายเซ็นของนักบินไทยสมายล์

    [รีวิว] My Flight Log สมุดบันทึกการเดินทางสุดเก๋ สะสมตราประทับและลายเซ็นของนักบินไทยสมายล์

    🎵 ฝากดวงใจ พี่ลอยล่องไปบนนภา สุดขอบฟ้า หัวใจพี่จะไปถึง… จุดเด่นของไทยสมายล์ นอกจากไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋า การเลือกที่นั่ง คุณภาพงานบริการ ความสะอาดบนเครื่องบินแล้ว ก็คงหนี้ไม่พ้นเพลง แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร ที่ฟังกี่ครั้ง ก็ประทับใจทุกครั้ง นอกจากความหมายจะไพเราะ ก็ยังทำให้หวนนึกถึงโฆษณา Smile for life 3 ที่ทำให้ผมน้ำตาซึมเมื่อได้ชมโฆษณาชิ้นนี้ครั้งแรก

    ไฟท์ล่าสุดของผม คือบินจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ โดยการเดินทางครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่ว่า ผมและแฟนของผมได้รับสมุด My Flight Log จากสายการบิน ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นกิมมิคที่เจ๋งมาก เพราะในสมุดมีกิจกรรมเก็บสะสมตราประทับประจำเครื่องบิน (ไทยสมายล์มีเครื่องบิน 20 ลำ*) เพื่อแลกของรางวัล เรายังได้ลายเซ็นกัปตันประจำเที่ยวบินนั้นเก็บไว้ด้วย

    ทำอย่างไร ถึงจะได้สมุดเล่มนี้ ? สมุดเล่มนี้สามารถขอได้จากลูกเรือตอนขึ้นเครื่องครับ มีจำนวนจำกัด ไม่สามารถสำรองหรือจองได้ทั้งสิ้น

    สมุดจะมีอยู่ทั้งหมดสองสี คือสีฟ้าและสีส้ม เลือกไม่ได้นะครับ ลูกเรือจะเลือกมาให้เรา

    ได้เวลาเปิดดูสมุดแล้วว่าข้างในมีอะไรบ้าง หน้าแรกเปิดมาปุ๊ปเจอบันทึกการเดินทางของจริง ระบุละเอียดยิบ วันที่ เวลา สายการบิน เลขไฟท์ รหัสทะเบียน ชื่อเครื่องบิน ต้นทาง ปลายทาง เวลา พร้อมทั้งลายเซ็นนักบิน ผู้ช่วยนักบิน ลูกเรือต่าง ๆ ครบทั้งลำ มีข้อความสุดน่ารักจากลูกเรือ

    ข้อความทั้งหมดที่อยู่ในสมุด เกิดจากลายมือของพนักงานจริง ๆ ไม่ได้มีการพิมพ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

    อีกหนึ่งหน้าสำคัญ นั้นก็คือหน้าสะสมตราประทับชื่อเครื่องบิน ซึ่งมีช่องให้ต้องสะสมถึง 20 ช่อง ครบตามจำนวนเครื่องบินทั้ง 20 ลำ

    สะสมครบตามจำนวนทุก 5, 10, 15, 20 มีแลกรางวัลด้วย

    หน้าสุดท้ายสุดน่ารัก เป็นสติ๊กเกอร์กัปตัน และลูกเรือ สวยจนไม่กล้าหยิบขึ้นมาใช้

    ท้ายที่สุดขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเดินทางครับ ขึ้นไทยสมายล์ครั้งหน้า อย่าลืมขอ My Flight Log จากลูกเรือนะครับ

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กัปตันไฟซอล บิน กิน เที่ยว Captain Faisal
    ภาพ: Damrongsak Sattabut, Chaichana Kulworatit

  • เยือนพิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | Suvarnabhumi Airport Museum คนรักสนามบินและเครื่องบินถูกใจแน่นอน

    เยือนพิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | Suvarnabhumi Airport Museum คนรักสนามบินและเครื่องบินถูกใจแน่นอน

    พิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | Suvarnabhumi Airport Museum ตั้งอยู่ที่อาคารจอดรถ 3 ชั้น 6 หรือฝั่งตรงข้ามอาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 ประตู 8 ซึ่งเปิดให้บริการ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09:00 – 16:00 น. ประชาชนทั่วไปฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

    โถงทางเข้าพิพิธภัณฑ์
    ห้องเกริ่นนำ

    พิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2559 โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสร็จเป็นประธานในพิธีเปิด ภายในจะมีห้องทั้งหมด 9 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะเป็นข้อมูลต่าง ๆ ของสุวรรณภูมิ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยในส่วนนี้ผู้เข้าเยี่ยมชมจะได้รับชมบทกวี “ผู้แสวงหากับกาลเวลา 24 ชั่วโมง” ซึ่งประพันธ์โดย คุณจีระนันท์ พิตปรีชา นักกวีซีไรท์

    วิดีทัศน์ภายในห้องที่ 1
    ห้องที่ 1 ใต้ฟ้าพระบารมี The Shining light in Thai Sky

    ห้องนี้จะกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานนามมงคลให้กับสนามบินแห่งนี้ว่า “สุวรรณภูมิ” ที่มีความหมายว่า แผ่นดินทาง โดยพระองค์ได้พระราชทานเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2543 และพระองค์ได้เสร็จพระราชดำเนินประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อเป็นหลักชัยให้กับสนามบินแห่งนี้ในวันที่ 19 มกราคม 2545 ระหว่างเวลา 17:49 น. – 18:49 น.

    แผนที่แผ่นดินทอง (สุวรรณภูมิ)
    ห้องที่ 2

    สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น “พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย” ทรงระบุว่า ศูนย์กลางของดินแดนสุวรรณภูมิอยู่ที่ประเทศไทย หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรม การเดินทางเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า และการเผยแผ่ความเชื่อทางศาสนา คือเหล่าโบราณวัตถุอันเป็นสินค้าจากแหล่งอารยธรรมของโลก ทั้งโรมัน เปอร์เซีย อินเดีย และจีน กระจัดกระจายอยู่ตามแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ อาทิ กลองมโหระทึก ลูกปัด เครื่องปั้นดินเผา เครื่องใช้สำริดและเหรียญโลหะต่าง ๆ ซึ่งถูกส่งต่อเป็นทอด ๆ จากชุมชนสู่ชุมชน

    ห้องที่ 3 วันเวลาแห่งความสำเร็จ
    ห้องที่ 3 วันเวลาแห่งความสำเร็จ
    กำเนิดการบินพลเรือนในไทย

    วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2454 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ
    มงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดย นายฟาน เดอร์บอร์น (Van Den Bourne) นักบินชาวเบลเยี่ยมบินจากกรุงไซ่ง่อน มาลงจอดที่สนามม้าสระปทุม เพื่อสาธิตให้ประชาชนชาวไทยได้ชมในตอนนั้น โดยจอมพลสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้าฟ้าจักพงภูมินาถกรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ได้เสร็จร่วมบินกับ นายฟาน เดอร์บอร์นด้วย หลังจากนั้นท่านมีความสนใจเกี่ยวกับการบิน และได้จัดตั้งแผนกการบินขึ้นมา จึงทำให้ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระบิดาแห่งกองทัพอากาศไทย”

    การบินครั้งแรกในประเทศไทย


    กระทรวงกลาโหม มีการคัดเลือกนายทหารบก 3 นาย ได้แก่ นายพันตรีหลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ร้อยเอกอาวุธสิชิกร และร้อยโททิพย์ เกตูทัต เพื่อเดินทางไปศึกษาวิชาการบิน ณ ประเทศฝรั่งเศส เป็นเวลา 3 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาด้านการบินแล้ว จึงเดินทางกลับสู่ประเทศไทย พร้อมกับเครื่องบินจำนวน 8 ลำ แต่ทว่าสนามม้าสระปทุมไม่เหมาะที่จะสร้างเป็นสนามบินแห่งแรกของประเทศไทย เนื่องจากมีพื้นที่คับแคบ ประกอบกับมีน้ำขังบ่อย จึงมอบหมายให้ พันตรีหลวงศักดิ์ศัลยาวุธ บินหาพื้นที่ที่เหมาะสม ท่านจึงได้พบที่ อำเภอบางเขน ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า “ดอนอีเหยี่ยว” หรือในปัจจุบันก็คือ “ดอนเมือง”

    ใบอนุญาตขับเครื่องบินในยุคนั้น

    ต่อมาได้ส่ง นายเลื่อน พงษ์โสภณ ไปศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวกับช่างซ่อมเครื่องบิน เป็นระยะเวลานานถึง 3 ปี ระหว่างอยู่ที่นั้น นายเลื่อนได้เก็บเงินจากการรับจ้างบินพาดโพนตามรัฐต่าง ๆ ซื้อเครื่องบินด้วยเงินสะสมของท่านเองและกลับมายังประเทศไทย

    โดยตั้งชื่อเครื่องบินว่า “นางสาวสยาม” หรือ “Miss Siam” นับเป็นเครื่องบินพลเรือนลำแรกของประเทศไทย และทำการบินไประหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน ซึ่งนับว่าเป็นการบินเส้นทางระหว่างประเทศของไทยอีกด้วย

    นางสาวสยาม เครื่องบินพลเรือนลำแรกของไทย

    บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) เดิมที่ชื่อ “เดินอากาศไทย” ซึ่งตอนเปิดบริษัทครั้งแรกได้ร่วมหุ้นกับ บริษัทสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ มาเป็นพี้เลี้ยงเนื่องจากไทยยังไม่มีประสบการณ์ในการบินเชิงพาณิชย์ และในปี 2520 ก็ได้มีการซื้อหุ้นกลับมาและเป็นของคนไทยเพียงผู้เดียว

    บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด
    การก่อสร้างสนามบิน

    สนามบินสุวรรณภูมิ มีแผนการก่อสร้าง ตั้งแต่ปี 2502 ในยุคของ จอมพลสลิต ธนรัต แต่ในตอนนั้นไทยมีปัญหาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีต่าง ๆ จึงยังไม่ได้เริ่มสร้างในตอนนั้น

    ในปี 2506 – 2516 ทางสนามบินได้มีการเวนคืนที่ดินจาก 5,000 ไร่ จนครบ 20,000 ไร่ ประกอบกับสนามบินดอนเมืองไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นในทุกปี จึงนับได้ว่าเป็นวาระแห่งชาติที่จำเป็นจะต้องสร้างสนามบินแห่งใหม่ขึ้น

    ระบบปรับอากาศของสนามบินสุวรรณภูมิ มี 2 ระบบ คือ พื้นหล่อเย็น และถ่ายเทลมเย็น ทั้ง 2 ระบบนี้ทำงานร่วมกันโดยมีน้ำเย็นเป็นตัวกลาง
    ห้องที่ 4 เส้นทางแห่งความภูมิใจ
    แบบจำลองเส้นทางการคมนาคมและการระบายน้ำรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

    ระบบป้องกันน้ำท่วมในสนามบินสุวรรณภูมิ มีทั้งหมด 2 ระบบ ทั้งภายในและภายนอก โดยภายในจะมีเขื่อนดินล้อมรอบท่าอากาศยาน ยาว 23.5 กิโลเมตร สูง 3.5 เมตร กว้าง 70 เมตร และด้านในจะมีคลองขนานเขื่อนดิน กว้าง 30 เมตร สูง 2 เมตร เพื่อที่จะระบายน้ำภายในสนามบิน ให้เชื่อมต่อกับอ่างเก็บน้ำ ที่มีทั้งหมด 6 อ่าง ซึ่งสามารถเก็บน้ำได้สูงสุด 5 วันโดยที่ไม่ต้องระบายออก สามารถจุน้ำได้ 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ทางทิศใต้ทั้ง 2 อ่าง จะมีสถานีสูบน้ำ เพื่อที่จะระบายน้ำสู่คลองภายนอกสนามบินและลงสู่ทะเลอ่าวไทยต่อไป

    ระบบป้องกันภายนอกสนามบิน มีคันกันน้ำทั้งหมด 3 คัน มีคันกันน้ำชายทะเล เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน คันกันน้ำพระราชดำริของในหลวง และคันกันน้ำจากฝั่งตะวันออก

    แบบจำลองสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ
    ห้องที่ 5 9 มหัศจรรย์สุวรรณภูมิ
    9 มหัศจรรย์สุวรรณภูมิ

    1. หลังคาผ้าใยสังเคราะห์ ประกอบด้วยแผ่นผ้าใยสังเคราะห์ชนิดพิเศษ 3 ชั้น
    – ชั้นนอก ผ้าใยสังเคราะห์โพลีเอททิลีน (Poly Ethylene: PE) สีขาว เหนียว ยืดหยุ่นช่วยกระจายความร้อน สามารถทำความสะอาดตัวเองได้เมื่อได้รับน้ำฝน
    – ชั้นกลาง พลาสติกโพลีคาร์บอเนต (Poly Carbonate) ใส แบบเดียวกับที่ใช้ทำเกราะกันกระสุนป้องกันเสียงรบกวน ช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอกและการเก็บอุณหภูมิภายในอาคารได้เป็นอย่างดี
    – ชั้นใน เส้นใยโพลีเอททิลีน มีรูระบายอากาศเพื่อระบายความร้อนภายในตัวอาคารผู้โดยสาร

    ระบบปรับอากาศ

    2. ระบบปรับอากาศ มีทั้งหมด 2 ระบบ ประกอบด้วย
    – ระบบถ่ายเทลมเย็น หรือระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเย็นหมุนเวียน ใช้น้ำเย็นเป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อนระหว่างเครื่องส่งลมเย็นกับเครื่องทำน้ำเย็น จ่ายน้ำเย็นผ่านท่อใต้พื้นไปยังตู้จ่ายลมเย็นตามจุดต่าง ๆ ในอาคาร
    – ระบบพื้นหล่อเย็น ทำงานโดยการส่งน้ำเย็นไปตามท่อขนาดเล็ก ที่ถูกฝังเป็นแนวอยู่ใต้พื้น เพื่อส่งผ่านความเย็นออกมา ทำให้อากาศเหนือระดับพื้นเย็นสบาย โดยส่งความเย็นสูงจากพื้นที่ประมาณ 2-3 เมตร มีอุณหภูมิเฉลี่ย 24-25 องศาเซลเซียส

    3. การปรับปรุงคุณภาพดิน ที่ตั้งของสนามบิน มีสภาพเป็นดินอ่อนชุ่มน้ำ ทำให้จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงคุณภาพดิน โดยใช้ระบบสูบน้ำแบบสุญญากาศออกจากชั้นดิน โดยฝังท่อลึกลงไป 11 เมตร เมื่อดูดน้ำออก จะทำให้ดินเหนียวยุบตัวลง จากนั้นจึงใช้ทรายกดทับสูง 2 เมตร ประกอบการใช้หินคลุกร่วม โดยใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงคุณภาพดินมากกว่า 3 ปี ถึงเริ่มมีการก่อสร้างสนามบิน

    แบบจำลองสนามบินสุวรรณภูมิ

    4. หอบังคับการบิน มีความสูง 132.2 เมตร มีทั้งหมด 34 ชั้น ก่อสร้างโดยใช้วิธีการหล่อขึ้นทีละชั้น โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างเพียง 22 เดือน จากที่วางแผนการก่อสร้างไว้ทั้งหมด 30 เดือน (หอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลกปัจจุบันแชมป์เป็นของ Jeddah King Abdulaziz, Saudia Arabia โดยมีความสูงทั้งสิ้น 136 เมตร)

    5. โรงซ่อมบำรุงอากาศยาน มีขนาดกว้าง 90 เมตร ยาว 270 เมตร สูง 45 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยรวม 24,300 ตารางเมตร สามารถจอดเครื่องบิน Boeing 747 ได้ 5 ลำ พร้อมกัน หรือเครื่อง Airbus A380 ได้ 3 ลำพร้อมกัน โดยมีเสาคอนกรีต ขนาด 3×4 เมตร สูง 30 เมตร เพียง 2 ต้น เพื่อรองรับโครงสร้างหลังคาทั้งหมด

    6. เสาหลักและโครงสร้างเหล็กถักขนาดใหญ่ มีน้ำหนัก 1,800 ตัน ต่อ 1 ชุด โดยมี 3 ชิ้น ในการยกคานขึ้นสู่ยอดเสาใช้เวลา 1 สัปดาห์ เพราะคานอย่างเดียวมีน้ำหนักสูงถึง 1,500 ตัน

    แบบจำลองโครงสร้างอาคาร

    7. โครงเหล็กถัก 5 PIN TRUSS เป็นโครงเหล็กถักทรงโค้ง โดยเป็นเหล็กปลอดสนิมทั้งผนังและเพดาน มี 5 สลัก สามารถรองรับแผ่นดินไหวถึง 5.5 แมกนิจูด

    8. ผนังกระจก ติดตั้งด้วยระบบไร้กรอบที่มีความยืดหยุ่น สามารถใช้แสงสว่างจากธรรมชาติช่วยในการประหยัดพลังงาน และทำให้อาคารดูโปร่ง โล่ง ใช้กระจกนิรภัยกบแผ่นการติดตั้ง โดยใช้เคเบิลไร้สนิม เพื่อให้สามารถขยับและถ่ายเทแรงปะทะจากด้านข้าง เช่น กรณีแรงลมฝน หรือ แรงแผ่นดินไหว

    9. การย้ายท่าอากาศยานที่สำเร็จอย่างสมบูรณ์ การโยกย้ายฐานปฏิบัติการจากท่าอากาศยานกรุงเทพ มายัง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยระหว่างการโยกย้ายนั้นจะต้องให้การปฏิบัติงานของท่าอากาศยานยังสามารถดำเนินการต่อได้อย่างปกติ ทอท. จึงได้มอบหมายให้ ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิค สาธารณรัฐเยอรมันซึ่งมีความเชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เป็นผู้ดำเนินการในด้านการทดสอบการปฏิบัติการโยกย้าย (Trial Operations and Relocation) ซึ่งจะต้องมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า 5 ปี ก่อนการเปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างเต็มรูปแบบ

    แบบจำลองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
    ห้องที่ 6 อัตลักษณ์ไทยสู่สากล

    งานประติมากรรม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีลักษณะเฉพาะตัวอันโดดเด่น ด้วยการออกแบบทางสถาปัตยกรรมโดยการหลอมรวมเข้ากับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของชาติ งานจิตรกรรม การตกแต่งภายใน รวมถึงงานประติมากรรม

    • กินรี สัญลักษณ์ของการต้อนรับ เนื่องจากกินรีมีปีก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการบิน มีจำนวนทั้งสิ้น 36 ตน
    • ยักษ์ จำลองมาจากวัดพระแก้ว โดยตั้งหน้าประตู ด้วยความเชื่อที่ว่าไม่ให้สิ่งชั่วร้ายผ่านไปได้ เนื่องจากสนามบินก็เปรียบเสมือนประตูด่านแรกที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นจึงได้มีการจำลองยักษ์ในสนามบินเพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยมีทั้งหมด 12 ตน
    รูปปั้นตำนานกวนเกษียรสมุทร ที่ชั้นขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ
    ที่มา: Al Pavangkanan from Van Nuys
    • เทวตำนานการกวนเกษียรสมุทร เป็นเหตุการณ์กวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทพและอสูร เพื่อให้ได้น้ำอมฤต สื่อความหมายถึงความยั่งยืนและรุ่งเรืองแก่ท่าอากาศยานและผู้ใช้บริการ

    … เมื่อเริ่มพิธีกวนเกษียรสมุทร พระอินทร์คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าชักนาคเมื่อไหร่ นาคจะต้องเจ็บปวดและต้อนพ้นพิษออกมาแน่ ๆ พระอินทร์จึงได้หลอกให้ยักษ์อยู่ทางหัวของนาค และให้เทพอยู่ทางหาง เมื่อเริ่มกวนนาคก็พ้นไฟพิษไปโดนยักษ์ ทั้งยักษ์ทั้งนาคต่างก็ต้องทรมาณจากพิธีนี้ มีแต่เทพเท่านั้นที่สบาย พิธีนี้ใช้เวลากวนเป็นพัน ๆ ปี กว่าจะได้น้ำอมฤต ในขณะที่กวนจะมีของวิเศษออกมา 14 ชนิด อย่างสูดท้ายก็จะเป็นน้ำอมฤต

    เมื่อพากันกวนจนได้น้ำอมฤตแล้ว พวงยักษ์เห็นนางอัปสรซึ่งสวยมาก ๆ ก็พากันไล่จับนางอัปสร แต่ไม่ใช่ว่ายักษ์ทุกตนจะบ้าผู้หญิง ยังมีพระราหูที่ไม่บ้าจี้ไปไล่จับนางอัปสร ก็มาต่อคิวดื่มน้ำอมฤตกับเขาด้วย แต่ในขณะที่กำลังดื่มอยู่นั้น พระอาทิตย์กับพระจันทร์เห็นเข้าก็ไปฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์เลยขว้างจักรใส่พระราหู แต่ด้วยอำนาจของน้ำอมฤตที่ดื่มเข้าไป ทำให้ราหูขาด 2 ท่อน แต่ไม่ตาย เหลือแต่ช่วงบน ราหูรู้สึกโกรธพระอาทิตย์กับพระจันทร์มาก เจอที่ไหนจะต้องเอามากิน แต่กินอย่างไรก็ออกมาอยู่ดี เพราะตนมีแค่ครึ่งท่อนเท่านั้น …

    ห้องที่ 7 ศักยภาพระดับโลก

    ในระยะแรกสนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี และในปีที่ผ่านมา (ปี 2558) มีผู้ใช้บริการมากถึง 55 ล้านคนต่อปี จึงมีพัฒนาโครงการขึ้น ประกอบไปด้วย อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคน เป็น 60 ล้านคน และหลุมจอดแบบประชิดอาคารอีก 28 หลุมจอด โดยจะใช้รถไฟใต้ดิน เป็นขนส่งในการเชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารหลัก กับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (เฟส 2) โดยทำการเริ่มก่อสร้างเมื่อ 14 กันยายน 2559

    แผนการก่อสร้าง

    พร้อมทั้งจะทำการก่อสร้าง อาคารสำนักงานส่วนขยายตรงบริเวณสวนในเมือง ภายในถูกออกแบบให้เป็นอาคารสำนักงานขายของสายการบินต่าง ๆ มีเคาน์เตอร์เช็กอิน และมีการก่อสร้างลานจอดรถเพิ่มขึ้น โดยสามารถรองรับรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นอีก 1,000 คัน จากนั้นในเฟส 3 จะทำการสร้างรันเวย์ที่ 3 ทางฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้นอีก 1 รันเวย์ จากเดิม 2 รันเวย์ สามารถรองรับเที่ยวบินได้ 76 เที่ยวบินต่อ 1 ชั่วโมง และเมื่อรันเวย์ที่ 3 เสร็จ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถรับรองเที่ยวบินได้เพิ่มเป็น 94 เที่ยวบินต่อ 1 ชั่วโมง และเมื่อรันเวย์สร้างเสร็จ ทางท่าอากาศยานฯ จะทำการสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ขึ้น มีทั้งหมด 15 หลุมจอด เชื่อมต่อจากอาคารผู้โดยสายหลังแรกด้วยระบบ APM และ APL

    ห้องที่ 8 ท่าอากาศยานแห่งรอยยิ้ม

    ท่าอากาศยานแห่งรอยยิ้ม คือหัวใจสำคัญของการให้บริการท่าอากาศยาน ซึ่งหมายถึงการให้บริการด้วยรอยยิ้ม และการให้ความไว้วางใจเรื่องของความปลอดภัยทางด้านการบิน รวมไปถึง อัคคีภัย และการให้การดูแลในด้านต่าง ๆ อาทิ การบำบัดน้ำเสียที่รองรับน้ำเสียได้ในประมาณมากถึง 18,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน การคัดแยกขยะที่ไม่สร้างมลพิษให้กับสนามบินและชุมชนโดยรอบ รวมถึงการสร้างเลนปั่นจักรยานเพื่อให้ผู้สนใจมาใช้บริการ

    ห้องที่ 9 แสงทองส่องทางสู่ปลายฟ้า “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ”

    ภายในห้องนี้ ได้มีการนำเสนอ มหัศจรรย์เลข 9 ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากการก่อสร้างท่าอากาศยานฯ เกิดขึ้นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 9 จึงได้ออกแบบโดยนำเลข 9 ซึ่งเป็นเลขมงตลมาออกแบบโครงสร้างต่าง ๆ

    มหัศจจรย์เลข 9
    • เสาหลักของอาคารผู้โดยสารมีทั้งหมด 9 ชุด หรือ 18 ต้น (1+8 = 9)
    • เสายึดผนังกระจกของอาคารผู้โดยสาร ห่างกัน 9 เมตร มีทั้งหมด 126 ต้น (1+2+6 = 9)
    • ผ้าใยสังเคราะห์ ณ อาคารเทียบเครื่องบินมี 108 ชุด (1+0+8 = 9)
    • อาคารที่พักผู้โดยสาร กว้าง 108 เมตร (1+0+8 = 9)
    • เสาหลักของอาคารผู้โดยสาร มีความห่างกัน 126 เมตร (1+2+6 = 9)
    • เสาหลักของอาคารผู้โดยสาร (Pylon) ห่างกัน 81 เมตร (8+1 = 9)
    • อาคารที่พักผู้โดยสาร สูง 45 เมตร (4+5 = 9)
    • อาคารที่พักผู้โดยสาร ยาว 441 เมตร (4+4+1 = 9)
    • โครงเหล็กหลังคาอาคารเทียบเครื่องบินแต่ละช่วง ห่างกัน 27 เมตร (2+7 = 9)
    แบบจำลองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อมองจากด้านหลังอาคาร

    ที่มา: สคริปต์การบรรยายของมัคคุเทศก์พิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวนทั้งสิ้น 7 หน้า

  • ฝึกงานที่เอไอเอส 16 สัปดาห์ ทำงานจริง ได้ใช้จริง แถมได้เบี้ยเลี้ยงด้วย

    ฝึกงานที่เอไอเอส 16 สัปดาห์ ทำงานจริง ได้ใช้จริง แถมได้เบี้ยเลี้ยงด้วย

    แบ่งปันประสบการณ์ ฝึกงานที่เอไอเอส ในรูปแบบของสหกิจศึกษา ในส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์การตลาดและสื่อสารภายในองค์กร (Marketing & Internal Public Relations) ระหว่างวันที่ 7 มกราคม – 26 เมษายน 2562

    หลักสูตรการฝึกงาน

    เอไอเอสมีหลักสูตรการฝึกงานให้เลือกทั้งหมดอยู่สองโครงการดังนี้

    • Growing with AIS (GA) เป็นโครงการฝึกงานภาคฤดูร้อน ระหว่างเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม นักศึกษาจะได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานและได้ประสบการณ์การทำงานเป็นทีมผ่านกิจกรรมกลุ่ม
    • สหกิจศึกษา (Co-operative Education Program) เป็นโครงการที่บริษัทร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำความรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติที่ได้จากเรียน มาปฏิบัติงานจริง ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้นักศึกษาค้นพบศักยภาพของตนเองและแนวทางประกอบอาชีพในอนาคต

    วิธีการสมัคร

    1. ดาวน์โหลดใบสมัครจากเว็บไซต์ AIS Internship ปริ้นและนำมากรอกรายละเอียดให้เรียบร้อย
    2. เตรียมหลักฐาน ใบสมัครฝึกงาน | รูปถ่าย 1 นิ้ว | สำเนาวุฒิการศึกษาที่ปรากฏเกรดเทอมล่าสุด | สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน อย่างละ 1 ชุด
    3. ไปยื่นใบสมัครด้วยตัวเองที่ AIS Recruitment center ชั้น 13 ส่วนหน้า อาคารเอไอเอสทาวเวอร์ 1 (วิธีการเดินทางมาเอไอเอสที่ง่ายที่สุดคือ สถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ ทางออก 4 เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอ IBM, ธนาคารกสิกรไทย เดินต่อไปอีกสักพักอาคารเอไอเอสทาวเวอร์ 1 อยู่จะทางขวามือตรงบริเวณหน้าปากซอยพหลโยธิน 8) ในเวลาทำการจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่ 08.30 – 17.30 น.
    AIS Recruitment center
    AIS Recruitment Center ชั้น 13 ส่วนหน้า อาคารเอไอเอสทาวเวอร์ 1

    หลังจากนั้นก็รอพี่ HR โทรมาแจ้งผลว่าได้หรือไม่ได้ฝึกงาน ต้องบอกก่อนว่าขั้นตอนนี้ใช้ระยะเวลาพอสมควร ผมยื่นใบสมัครไปปลายเดือนสิงหาคม ได้รับทราบผลตอนประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ระหว่างรอคือโทรสอบผลการรับสมัครจาก HR เป็นระยะ หรือ เตรียมแผนสำรองเผื่อไว้หากไม่ติดที่นี่ (เพราะคนสมัครเยอะมาก)

    ฝึกงานที่เอไอเอส 3… 2…. 1…. เริ่ม

    7 มกราคม 2562 เวลา 04.30 น. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าผมจะต้องรีบตื่นนอน อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา เตรียมเอกสาร พร้อมสำหรับการฝึกงานในวันแรก

    วันนี้พี่หยู HR ที่ดูแลนักศึกษาฝึกงานนัดปฐมนิเทศตอนเวลา 08.30 น. แต่ด้วยความตื่นเต้น และนอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้มาถึงบริษัทก่อนเวลานัดหมาย 1 ชั่วโมง ระหว่างรอเวลานั้นก็นั่งมองพี่ๆ พนักงาน เดินไป เดินมา มองเพื่อนๆ ที่ใส่ชุดนักศึกษาเพื่อที่จะจับกลุ่มขึ้นไปพร้อมกัน

    เมื่อเข้าห้องประชุมก็พบว่ารุ่นนี้มีนักศึกษาฝึกงาน ในรูปแบบสหกิจประมาณ 15 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ได้ในระดับหนึ่ง พี่หยูก็เข้ามาปฐมนิเทศ แนะนำบริษัท กฏระเบียบ การลา การขาด การให้เบี้ยเลี้ยง ฯลฯ ปิดท้ายด้วยการพาทัวร์ชมบริษัท ชั้น 30 มีฟิตเนสและคาราโอเกะ ชั้น 15 มีห้องพยาบาล ที่จ้างแพทย์มาประจำที่บริษัทเลย ปิดท้ายด้วยชั้น 12 เป็นห้องสมุด ซึ่งทั้งหมดนักศึกษาฝึกงานสามารถเข้าใช้/รับบริการได้ เพียงแสดงบัตร Trainee

    ห้องสมุดชั้น 12 มีตู้กดกาแฟ โต๊ะ และห้องประชุมไว้ให้บริการ จัดพื้นที่ในรูปแบบ CO-Working Space

    หลังจากนั้น พี่หยูก็พาผมเดินไปส่งที่ฝ่าย Public Relations โดยมีพี่แฟ้ม พี่เลี้ยงที่จะคอยดูแลผมตลอด 4 เดือนรอรับอยู่แล้ว พี่แฟ้มจัดแจ้งพาเข้าห้องประชุมเล็กและเริ่มอธิบายหน่วยงานทั้งหมดให้ผมฟัง ว่ามีกี่ฝ่ายแต่ละฝ่ายดูแลอะไรบ้าง พร้อมกับถามผมว่า “มาฝึกที่นี้ อยากทำอะไรบ้าง” ผมก็ตอบกลับไปว่า “มหาวิทยาลัยบังคับให้ผมทำงานที่แตกต่างกันออกไป 4 ประเภท เช่น งานเขียน งานกราฟิก งานครีเอทีฟ รวมถึงงานอื่นๆ ที่พี่ๆ มอบหมาย พี่จัดเต็มมาได้เลยครับ” หลังจากนั้นพี่แฟ้มก็พาเดินชมหน่วยงาน พาโชว์ตัว และจัดการเรื่องโต๊ะให้

    โต๊ะทำงานของนักศึกษา เมื่อ ฝึกงานที่เอไอเอส
    ได้โต๊ะทำงาน + โน๊ตบุ๊กหนึ่งเครื่อง

    กิจกรรม/งานที่ได้รับมอบหมาย

    สวัสดีปีใหม่สื่อมวลชน

    เป็นโอกาสอันดีมาก เนื่องจากช่วงที่ผมฝึกงานเป็นช่วงต้นปีพอดี จึงได้มีโอกาสพิเศษเดินทางไปสวัสดีปีใหม่พี่ๆ สื่อมวลชนหลากหลายสำนัก ตั้งแต่ภาคภาษาไทย ภาคภาษาอังกฤษ ออฟไลน์ ไปจนถึงออนไลน์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และแสดงถึงความจริงใจ ใส่ใจ ที่ทางเอไอเอสมีต่อพี่ๆ สื่อมวลชน

    ลงทะเบียน อำนวยความสะดวกและดูแลสื่อมวลชนในงาน AIS VISION 2019

    ถ่ายรูปคู่กับป้ายงาน

    งานใหญ่ประจำปีของเอไอเอส ที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุด สื่อมวลชนเยอะที่สุด จัดในสถานที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร งาน AIS VISION 2019 (Ais Digital Intelligent Nation 2019) เป็นงานที่เอไอเอสจะเผยให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจประจำปี มีการสาธิตนวัตกรรมใหม่ๆ ครอบคลุมตั้งแต่ NEXT G, AIS FIBRE, iOT ฯลฯ รวมถึงมีการสัมมนาให้ความรู้ทักษะดิจิทัลอันจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในธุรกิจ ภายใต้ชื่อ AIS Digital for THAIs

    งานที่ได้รับมอบหมายในวันนี้ จะเป็นการรับลงทะเบียน แจกข่าวประชาสัมพันธ์ และดูแลอำนวยความสะดวกให้กับพี่ๆ สื่อมวลชน ความยากของงานนี้คือ ต้องทำทุกอย่างให้สั้น และกระชับที่สุด สาเหตุก็เป็นเพราะพี่ๆ ทุกคนในฝ่ายมีหน้าที่รัดตัว เวลาเราสงสัยอะไรก็ต้องทำให้รวดเร็วมากที่สุด บางครั้งโทรสอบถามข้อมูลได้เพียง 10 วิเท่านั้น แต่แล้วก็สามารถผ่านวันนี้มาได้อย่างง่ายดาย เพราะว่าใบบรีฟกิจกรรมนี้เขียนละเอียดมาก ว่าช่วงเวลานี้เราจะต้องทำอะไร เชิญนายไปถ่ายรูปตรงไหน ต้องยกหรือจัดแจงอะไร ใครมีหน้าที่รับผิดชอบ ถูกระบุไว้ในกระดาษแผ่นนี้หมด

    Ookla® Award 4 ปีซ้อน

    ถัดจากการจัดงานภายนอก ก็กลับเข้ามาถึงงานภายในองค์กร ผมเคยถามเจ้านายผมว่าทำไมงานภายในองค์กรถึงจะต้องจัดใหญ่มาก มีออแกไนเซอร์มาคอยดูแล จ้างร้านน้ำ ร้านอาหารมาเปิด เจ้านายก็บอกว่า เพื่อเป็นขวัญให้กำลังใจกับพนักงาน ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจหรอกครับว่าการจัดงานภายในแบบนี้มันจะไปเสริมสร้างกำลังใจให้กับพนักงานได้อย่างไร

    จนกระทั้งได้ฟังพี่ๆ วิศวกรนำเสนอผลงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมาว่า เขาทำอย่างไรถึงพาบริษัทมหาชนแห่งนี้ขึ้นมาเป็นเครือข่ายที่เร็ว แรงสุดในไทย การันตีโดยองค์กรระดับโลกอย่าง Ookla® ได้ ผมก็เข้าใจความรู้สึกเหล่านั้นมากขึ้น มันไม่ใช่แค่การเสริมสถานีเสาสัญญาณ อัปเกรดอุปกรณ์ แต่มันเป็นเรื่องของการดูแล

    ไกด์ช็อต

    การถ่ายภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์นับได้ว่าเป็นอีกโจทย์หนึ่งที่มีความยากมาก บางครั้งไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีป้ายแสดงให้เห็นว่ากิจกรรม หรืองานดังกล่าวเกี่ยวกับอะไร บางครั้งป้ายหรือพร็อพต่าง ๆ ก็เยอะมาก จนไม่รู้จะจัดอย่างไรให้ลงตัว นับเป็นอีกความท้าทายหนึ่งที่พี่ ๆ ให้เราได้ทดลองเรียนรู้ โดยพี่ที่ดูแลโปรเจครวมถึงช่างกล้องก็ช่วยเราจัดด้วย

    งานถ่ายภาพ

    ยากกว่าการเป็นคนจัดมุมภาพคือการเป็นคนถ่ายภาพเอง หากท่านเป็นคนที่ถ่ายภาพไม่เก่งแบบผม คำแนะนำคือถ่ายภาพให้ออกมาหลากหลายมุมมากที่สุด คิดครีเอท ใส่สัญญะ ความหมายลงไปในภาพ ท้ายที่สุดลองปรึกษาพี่ ๆ ได้ครับ ว่าควรถ่ายภาพออกมาแบบไหน

    งานกราฟิก

    ตลอดระยะเวลาฝึกงาน 16 สัปดาห์ผมได้รับมอบหมายงานเกี่ยวกับกราฟิก เพื่อสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมทั้งสิ้น 37 ชิ้น แต่ถ้าใครไม่ถนัดด้านนี้ ใช้โปรแกรมไม่เก่งไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ เพราะพี่ ๆ เขาจะมอบหมายงานที่เราสามารถฝึกฝนฝีมือ และหากงานไหนที่ได้รับการเผยแพร่ แนะนำให้แคปเก็บไว้นะครับ มันเป็นความภาคภูมิใจของเด็กฝึกงานมาก ๆ

    งานวิดีโอ

    มีงานภาพ งานกราฟิก ก็ต้องมีงานวิดีโอ ตามจริงงานวิดีโอนี่นับเป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกมากครับ เพราะเราจะดูเป็นคนประหลาดที่สุดในงาน กล่าวคือเมื่องานทุกอย่างเริ่มต้นและรันตามคิว ตัวของเราจะไปแทรกอยู่ในทุกมุมของเวที ตอนแรก ๆ ด้วยความเป็นเด็กฝึกงานก็จะเกรงใจ แต่การเกรงใจนั้นทำให้เราพลาดหลาย ๆ ช๊อตสำคัญ ดังนั้นช่วงหลังก็มีความปรับตัวและทำให้ไม่พลาดช๊อตสำคัญ

    งานเขียน

    สิ่งที่ผมกล่าวได้เต็มปากว่า ยากที่สุด หินที่สุด สำหรับงานด้านการประชาสัมพันธ์ของที่นี่คือ งานเขียน ยากแบบขนลุก ไม่สามารถจะใช้ทฤษฎี 5W 1H การเขียนแบบปิรามิดหัวกลับ หรือปิรามิดหัวตั้งได้เลย ใช้คำว่าต้องเรียนรู้อย่างมาก เพื่อให้เข้าใจสไตล์การเขียน เขียนสื่อสารกับพนักงานก็เขียนอีกแบบหนึ่ง เขียนส่งข่าวก็เขียนอีกแบบหนึ่ง ใครที่ชอบงานเขียน บอกเลยว่าที่นี่เหมาะสมอย่างมากที่จะพัฒนาฝีมือและความสามารถไปอีกขั้น

    ชีวิตความเป็นอยู่

    ตั้งแต่เจ้านาย พี่เมย์ วราลี จิรชัยศรี / พี่ยีน สุดาภร วัชรนิศากร / พี่เลี้ยง พี่แฟ้ม พิมพิกา มั่นพรรษา ตลอดจนพี่ ๆ ในส่วนงานประชาสัมพันธ์ทุกคน ใจดีมาก แฮปปี้ บรรยากาศเป็นกันเองที่สุด เราไม่เคยรู้สึกว่าโดนกดดัน เราอยากเรียนรู้อะไร สอบถามอะไร พี่ ๆ เขายินดีตอบด้วยใจเสมอ

    มีครั้งหนึ่งผมเคยปรึกษาเจ้านายว่า ผมจะเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ค่าย JWC 11 อย่างไรดี เจ้านายเขาก็ไกด์ไลน์การเขียนให้เลยว่า เขียนไปเลย เป็นครั้งแรกในไทยไหม จัดเต็มไหม มีผู้เชี่ยวชาญเยอะ จนกลายมาเป็นข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้ครับ สมาคมเว็บฯ จัดเต็ม! สร้างสรรค์ค่าย JWC11 ปูแนวทางเด็ก ม.ปลาย สู่วิชาชีพผู้ดูแลเว็บไซต์

    สำหรับเรื่องการเลี้ยงดู หากเป็นการเล่นเกมเดอะซิมส์ก็คือกดสูตรโกงความหิวได้เลย พี่ ๆ พาไปเลี้ยงบ่อยมาก ตั้งแต่อาหารไทยโบราณข้าวแช่ ไปจนถึงอาหารฝรั่ง อาหารที่เสิร์ฟจากหินภูเขาไฟ

    ท้ายที่สุดผมมั่นใจว่าหากได้ฝึกงานด้านการประชาสัมพันธ์ ที่เอไอเอส เมื่อจบการฝึกงานแล้ว จะได้ไอเดีย คอนเซ็ปต์ วิธีการทำงานแบบมืออาชีพ ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ในโลกแห่งการทำงานจริง

  • รีวิว GOMO ซิมออนไลน์ 100% ใหม่ จากเอไอเอส ที่ให้คุณออนไลน์ได้เร็วแรงทั่วไทย และทั่วโลก

    รีวิว GOMO ซิมออนไลน์ 100% ใหม่ จากเอไอเอส ที่ให้คุณออนไลน์ได้เร็วแรงทั่วไทย และทั่วโลก

    รีวิว GOMO ซิมออนไลน์รุ่นใหม่จากเอไอเอส ที่ให้คุณออนไลน์ได้เร็วแรงสุด เน็ตเยอะสุด ตอบโจทย์สถานการณ์คลายล็อกดาวน์ มาพร้อมกับกรมธรรม์ประกันชีวิตโควิด-19, สิทธิพิเศษคน Work From Home, และคนชอบความบันเทิง ให้รับชมยูทิวบ์ได้แบบไม่สะดุด ไม่มีโฆษณาคั่นนานถึง 3 เดือน ทั้งหมดนี้แพ็กรวมมาให้ในราคาเพียง 299 บาทเท่านั้น”

    ถอดทุกข้อจำกัด จัดการง่าย บนออนไลน์ 100%

    หมดปัญหาการเสียเวลาเดินทางไปติดต่อทำรายการที่ช็อป หมดยุคเขาะเขินเสียเวลาค้นหาซิมเบอร์สวยจากตระกร้าใส่ซิม เพราะนี้คือยุคใหม่ที่เราจะสามารถจัดการทุกอย่างแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกซื้อเบอร์สวย เบอร์มงคล เลือกโปรโมชั่น ยืนยันตัวเปิดเบอร์ ชำระเงิน และติดต่อพนักงานบนช่องทางออนไลน์ 100%

    มีแพ็กเกจอะไรน่าสนใจบ้าง

    รีวิว GOMO
    แพ็กเกจจาก GOMO

    ไม่ต้องค้นหา หรือเปรียบเทียบให้เสียเวลา เพราะซิมนี้มีแพ็กเดียว
    – ให้เน็ตเต็มสปีด 50 GB และใช้งานอินเทอร์เน็ตต่อเนื่องไม่จำกัดที่ความเร็ว 512 Kbps,
    – AIS Super WiFi ไม่อั้น
    – โทรฟรีทุกเครือข่าย 100 นาที
    – ส่ง SMS ฟรี 200 ข้อความ
    – พร้อมด้วยแพ็กเกจ YouTube Premium นาน 3 เดือน
    – แพ็กเกจ Work Anywhere
    – กรมธรรม์ประกันชีวิตไวรัสโคโรนา
    ได้ทั้งหมดนี้ในราคา 299 บาท เท่านั้น

    คุ้มค่าแบบนี้ต้องโดนแล้วปะ ~~~~~~~~~~~ สาธิตวิธีการสมัครแบบละเอียดยิบ

    1. เข้าไปเลยที่เว็บไซต์ www.gomo.th (ชอบตรงนี้เป็นการส่วนตัวมาก เพราะใช้โดเมนแบบไม่มีหมวดหมู่คั่นกลาง ฟาด sld.th ชื่อก็เลยออกมาสั้นแต่สวยและความดจีย์)
    หน้าเว็บ Gomo ก็จะมาด้วยธีมสีชมฟูและสีฟ้า สีสันจัดจ้านสุด
    หน้าเว็บ Gomo ก็จะมาด้วยธีมสีชมฟูและสีฟ้า สีสันจัดจ้านสุด

    กด “สมัครเลย” เพื่อเข้าสู่หน้าเลือกเบอร์ ซึ่งหน้านี้ เอไอเอส เขาก็เข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่เป็นสายมู่ๆ เบอร์ต้องสวย ความหมายต้องดี ผลรวมต้องเป๊ะ ในขั้นตอนสมัครทั้งหมด ผมว่าขั้นตอนนี้ใช้ระยะเวลานานสุด ไม่ใช่เพราะระบบช้า หรือ UI/UX ไม่ดีนะ แต่การค้นหาเบอร์ให้โดนใจเนี้ย เป็นสิ่งต้องใช้เวลา และแล้วเราก็ได้เบอร์มา ระดับ A+ เย่ๆ

    สำหรับเว็บดูดวงเบอร์ด้านซ้ายผมเลือกใช้ของ https://berhit.com/ เพราะใช้งาน ไม่ต้องมีตัวเลขอะไรมาให้สับสน บอกเป็นเกรดเลย A+ A B C D ...
    สำหรับเว็บดูดวงเบอร์ด้านซ้ายผมเลือกใช้ของ https://berhit.com/ เพราะใช้งาน ไม่ต้องมีตัวเลขอะไรมาให้สับสน บอกเป็นเกรดเลย A+ A B C D …

    หลังจากกด “ถัดไป” ระบบกูจะพาเข้าสู่หน้าล็อกอิน ซึ่งสามารถเลือกล็อกอินได้ทั้ง LINE Facebook และ อีเมล

    หน้าตาล็อกอินของ Gomo ชอบนุ้งโลกด้านซ้ายล่างจัง
    หน้าตาล็อกอินของ Gomo ชอบนุ้งโลกด้านซ้ายล่างจัง

    พอล็อกอินเข้าสู่ระบบเสร็จแล้ว ก็กรอกรหัสบัตรประชาชน ที่อยู่สำหรับจัดส่งได้เลย

    กรอกข้อมูลส่วนตัวกัน
    กรอกข้อมูลส่วนตัวกัน

    หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่สรุปข้อมูลการสั่งซื้อข้อมูล เช็กให้เรียบร้อยว่าเบอร์ที่เราเลือก ที่อยู่จัดส่งในการกรอกเราถูกต้อง ถ้ามั่นใจแล้วก็กดชำระเงินได้เลย

    ตรวจสอบให้มั่นใจแล้วเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงินได้เลย
    ตรวจสอบให้มั่นใจแล้วเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงินได้เลย

    ขั้นตอนชำระเงินก็ง่ายมากๆ มีวิธีให้เลือกชำระมากถึง 3 ช่องทาง ใครสะดวกบัตรเครดิต บัตรเดบิต และแรบบิทไลน์เพลย์ก็เลือกให้ตรง และกดชำระได้เลย

    ยอดชำระทั้งสิ้น 299 บาท
    ยอดชำระทั้งสิ้น 299 บาท
    เรียบร้อย สมัครสำเร็จแล้ววว รอรับ Tracking Oder ผ่านทาง E-mail ได้เลย
    เรียบร้อย สมัครสำเร็จแล้ววว รอรับ Tracking Oder ผ่านทาง E-mail ได้เลย

    ผ่านไป 1 วัน ซิมก็มาส่งถึงหน้าบ้านแล้ว

    น้องมาแล้ว มาด้วยสีสันสดใสสุดๆ ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าชอบน้องโลก มันดูมีส่วนผสมอะไรหลายๆ อย่างดี

    ซองบรรจุซิม GOMO
    ซองบรรจุซิม GOMO

    แกะซองออกมาก็เจอกลับกระดาษ A4 หนึ่งแผ่น ที่ระบุวิธีการเปิดใช้งานซิม อย่าเผลอถึงกระดาษแผ่นนี้ละ เพราะมีซิมติดอยู่ในกระดาษแผ่นนี้ด้วย น้องอยู่ตรงนี้สีชมพูสด ใส แกะออกมาแล้วเสียบเข้าในเครื่องโทรศัพท์ของเราได้เลย

    น้องอยู่มุมซ้ายของกระดาษนะครับ อย่าเผลอทิ้งเลยละ เพราะในซองไม่มีอะไรอีกแล้ว
    น้องอยู่มุมซ้ายของกระดาษนะครับ อย่าเผลอทิ้งเลยละ เพราะในซองไม่มีอะไรอีกแล้ว

    แล้วเราก็จัดการเสียบซิมเข้าเครื่องเลยย จะเป็นซิมหนึ่งหรือซิมสองก็ได้นะ เพราะจับคลื่นเดียวกันกับเอไอเอส

    ซิมเอไอเอสและซิมโกโม่
    ซิมเอไอเอสและซิมโกโม่

    หลังจากนั้นก็โหลด Gomo by AIS มาเปิดแอปฯ และล็อกอิน ระบบก็จะพาเข้าสู่หน้ายืนยันตัวตนเพื่อเปิดใช้บริการครับ ซึ่งระบบ KYC ใหม่ของเอไอเอส เจ๋งมาก เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด พร้อมเสียงบรรยายประกอบในแต่ละขั้นตอน ถ่ายบัตรประชาชน เซลฟี่ เป็นอันเสร็จสิ้นในขั้นตอนการเปิดซิม

    เปิดแอป GOMO จอหน้านี้ให้เตรียมบัตรประชาชนให้พร้อมนะ
    เปิดแอปเจอหน้านี้ให้เตรียมบัตรประชาชนให้พร้อมนะ
    ภาพรีวิวนี้ก็จะน่ากลัวหน่อยๆ  เมื่อต้องเซลฟี่หน้า ดรศ เข้าระบบยืนยันตัวตน
    ภาพรีวิวนี้ก็จะน่ากลัวหน่อยๆ เมื่อต้องเซลฟี่หน้า ดรศ เข้าระบบยืนยันตัวตน (ขออนุญาตทำรูปเล็กๆ อาย)

    เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จ ก็จะเอาสู่หน้าของแอปครับ ซึ่งจะขอรีวิวแบบเป็นอัลบั้มเลย จะได้ดูกันง่ายๆ ว่าในแอปนี้มีอะไรบ้าง

    และนี้คือไฮไลท์อีกแบบหนึ่งของซิมนี้ เพราะเราสามารถซื้อแพ็กเกจเสริมสำหรับใช้งานต่างประเทศ ผ่านช่องทางนี้ได้เลย ไม่ต้องเปิดโรมมิ่งบนเบอร์เดิมที่เสียบริการแพง หรือไปใชับริการซิมต่างประเทศยี่ห้ออื่น เพราะค่าอินเทอร์เน็ตบนแพ็กนี้ถูกมากจริงๆ โดยเฉพาะประเทศที่มีโปรโมชั่นด้วยแล้ว ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่เลย

    3 ประเทศ ที่ค่าอินเทอร์เน็ตถูกมาก
    3 ประเทศ ที่ค่าอินเทอร์เน็ตถูกมาก
    ประเทศอื่นๆ ก็รองรับการใช้งานผ่านซิมนี้นะครับ
    ประเทศอื่นๆ ก็รองรับการใช้งานผ่านซิมนี้นะครับ

    สรุปของสรุป รีวิว GOMO

    คุณภาพสัญญาณตามฉบับของเอไอเอส สัญญาณเอไอเอสเต็ม สัญญาณ GOMO ก็เต็มไปด้วย ทั้งนี้ยังมาพร้อมสิทธิพิเศษให้ดู YouTube Premium 3 เดือน พร้อมฟรีแพ็กเกจ Work Anywhere  ให้ทุกคนทำงานได้จากทุกที่แบบไม่เสียค่าอินเทอร์เน็ต ยังเพิ่มพร้อมมอบฟรี ! กรมธรรม์ประกันชีวิตไวรัสโคโรนา พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่ลองได้อย่างไร กดสมัครเลย http://www.gomo.th/

    ข้อควรทราบ : ลูกค้าที่เป็นเครือข่าย NU Mobile ที่ ดรศ เคยได้รีวิวที่กระทู้นี้ จะถูกเปลี่ยนมาเป็นเครือข่าย GOMO อัตโนมัติเมื่อโปรโมชั่นหมดอายุครับ

    หมายเหตุ : รีวิวนี้เป็นแบบ Customer Review ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ ทั้งสิ้น