ป้ายกำกับ: Microsoft

  • โค้ดเปลี่ยนเลขอารบิกเป็นไทยใน MS Word

    โค้ดเปลี่ยนเลขอารบิกเป็นไทยใน MS Word

    การเปลี่ยนเลขอารบิกเป็นเลขไทย และเลขไทยเป็นเลขอารบิก ต้องใช้ VBA (Visual Basic for Applications) ซึ่งเป็นเครื่องมือภายใน Microsoft Office ที่ให้ผู้ใช้สามารถเขียนโค้ดเพื่อควบคุมและปรับแต่งการทำงานได้

    ด้านล่างนี้คือขั้นตอนและตัวอย่างการเขียนมาโครเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงเลขอารบิกเป็นเลขไทย และเลขไทยเป็นเลขอารบิกใน Microsoft Word:

    ขั้นตอนการสร้างมาโครใน Microsoft Word:

    1. เปิด Microsoft Word
    2. ไปที่แท็บ View (มุมมอง) > เลือก Macros (มาโคร) > เลือก View Macros (ดูมาโคร)
    3. ในหน้าต่าง Macros ให้พิมพ์ชื่อที่คุณต้องการสำหรับมาโคร เช่น ConvertArabicToThai แล้วคลิก Create (สร้าง)
    4. หน้าต่าง Microsoft Visual Basic for Applications (VBA Editor) จะเปิดขึ้นมา
    5. วางโค้ดต่อไปนี้ลงไปในหน้าต่างนั้น

    ตัวอย่างโค้ดแปลงเลขอารบิกเป็นเลขไทย

    Sub ConvertArabicToThai()
        Dim arabicNums As String
        Dim thaiNums As Variant
        Dim i As Integer
        
        ' Arabic numbers
        arabicNums = "0123456789"
        
        ' Thai numbers as Unicode characters
        thaiNums = Array(ChrW(&H0E50), ChrW(&H0E51), ChrW(&H0E52), ChrW(&H0E53), _
                         ChrW(&H0E54), ChrW(&H0E55), ChrW(&H0E56), ChrW(&H0E57), _
                         ChrW(&H0E58), ChrW(&H0E59))
        
        ' Loop through the Arabic numbers and replace with Thai numbers in the document
        For i = 1 To Len(arabicNums)
            With ActiveDocument.Content.Find
                .ClearFormatting
                .Replacement.ClearFormatting
                .Text = Mid(arabicNums, i, 1) ' Find Arabic number
                .Replacement.Text = thaiNums(i - 1) ' Replace with corresponding Thai number using Unicode
                .Forward = True
                .Wrap = wdFindContinue
                .Format = False
                .MatchCase = False
                .MatchWholeWord = False
                .MatchWildcards = False
                .MatchSoundsLike = False
                .MatchAllWordForms = False
                .Execute Replace:=wdReplaceAll
            End With
        Next i
    End Sub

    โค้ดแปลงเลขไทยเป็นเลขอารบิก

    Sub ConvertThaiToArabic()
        Dim arabicNums As String
        Dim thaiNums As Variant
        Dim i As Integer
        
        ' Arabic numbers
        arabicNums = "0123456789"
        
        ' Thai numbers as Unicode characters
        thaiNums = Array(ChrW(&H0E50), ChrW(&H0E51), ChrW(&H0E52), ChrW(&H0E53), _
                         ChrW(&H0E54), ChrW(&H0E55), ChrW(&H0E56), ChrW(&H0E57), _
                         ChrW(&H0E58), ChrW(&H0E59))
        
        ' Loop through the Thai numbers and replace with Arabic numbers in the document
        For i = 1 To Len(arabicNums)
            With ActiveDocument.Content.Find
                .ClearFormatting
                .Replacement.ClearFormatting
                .Text = thaiNums(i - 1) ' Find Thai number using Unicode
                .Replacement.Text = Mid(arabicNums, i, 1) ' Replace with corresponding Arabic number
                .Forward = True
                .Wrap = wdFindContinue
                .Format = False
                .MatchCase = False
                .MatchWholeWord = False
                .MatchWildcards = False
                .MatchSoundsLike = False
                .MatchAllWordForms = False
                .Execute Replace:=wdReplaceAll
            End With
        Next i
    End Sub
  • Microsoft Teams รองรับผู้เข้าร่วมประชุมกี่คน

    Microsoft Teams รองรับผู้เข้าร่วมประชุมกี่คน

    Microsoft Teams เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการประชุมออนไลน์และการทำงานร่วมกันในทีม โดยรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของไลเซ็นที่ใช้งาน ดังนี้:

    100 คน

    • Microsoft Teams Personal (รุ่นฟรี)

    300 คน

    • Microsoft 365 Business Basic
    • Microsoft 365 Business Standard
    • Microsoft 365 Business Premium
    • Microsoft 365 A1

    1,000 คน

    • Office 365 A3
    • Office 365 A5
    • Microsoft 365 E3
    • Microsoft 365 E5
    • Microsoft 365 A3
    • Microsoft 365 A5
    • Microsoft 365 Government G3
    • Microsoft 365 Government G5

    10,000 คน **

    อย่าได้กังวลใจ หากท่านถือไลเซ็น A3/A5 E3/E5 G3/G5 อยู่แล้ว หากมีการประชุมเกิน 1,000 คน คนตั้งแต่ 1,001 เป็นต้นไปจะยังสามารถเข้าร่วมประชุมได้ ผู้เข้าร่วมแบบ “ดูอย่างเดียว” (View-only attendees) ผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะไม่สามารถเข้าถึงการแชทในการประชุม หรือไม่สามารถแบ่งปันเนื้อหาหรือวิดีโอได้

    ทั้งนี้ผู้จัดประชุมสามารถพิจารณาเลือกปิดฟังก์ชั่นนี้ได้ หากท่านปิดจะจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 1,000 ท่านเท่านั้น

    อยากรู้ว่าถือไลเซ็นประเภทใดอยู่

    สำหรับการตรวจสอบไลเซ็นของท่านว่าปัจจุบันถือไลเซ็นใดอยู่สามารถตรวจสอบได้ดังนี้

    1. ตรวจสอบกับผู้ดูแลระบบของทางมหาวิทยาลัย
    2. ตรวจสอบจากเมนู Subscription (https://portal.office.com/account/?ref=MeControl#subscriptions)

    เจาะลึกโหมดผู้เข้าร่วมแบบ “ดูอย่างเดียว”

    ประสบการณ์การใช้งานผู้เข้าร่วมประชุมแบบ “ดูอย่างเดียว”

    1,000 คนแรก ใช้งาน Microsoft Teams ได้เต็มฟังก์ชัน

    • เข้าร่วมประชุมได้แบบเต็มรูปแบบ
    • สามารถเปิดไมค์ เปิดกล้อง
    • มีส่วนร่วมในการแชท
    • แชร์หน้าจอหรือนำเสนองานได้
    • ใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Teams ได้อย่างเต็มที่

    ตั้งแต่คนที่ 1,001 จนถึงคนที่ 10,000 จะมีรายละเอียดดังนี้

    สิ่งที่ทำได้:

    • รับชมและรับฟังการประชุมได้
    • เห็นวิดีโอของผู้พูดที่กำลังพูดอยู่ (Active Speaker)
    • เห็นหน้าจอที่กำลังแชร์อยู่ (Screen Sharing)
    • เข้าร่วมผ่านเดสก์ท็อป เว็บ และแอพมือถือ Teams
    • ดู Live Captions ได้บนเดสก์ท็อปและเว็บ

    สิ่งที่ทำไม่ได้:

    • เปิดไมค์หรือกล้อง
    • มีส่วนร่วมในการแชทของห้องประชุม
    • เห็นวิดีโอของผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ (ยกเว้นคนที่กำลังพูดอยู่)
    • เห็นการนำเสนอ PowerPoint แบบ PowerPoint Live
    • ยกมือหรือส่งอิโมจิ
    • ใช้งานแอปพลิเคชันเสริมต่าง ๆ ในห้องประชุม (เช่น Polls)
    • เข้าถึงการบันทึกการประชุม
    • เข้าร่วมผ่านระบบ Audio Conferencing, Microsoft Teams Rooms, หรือบริการ Cloud Video Interop (CVI)

    ข้อจำกัดเพิ่มเติม

    ผู้เข้าร่วมแบบ “ดูอย่างเดียว” จะมีดีเลย์ในการรับชมประมาณ 30 วินาที รองรับเฉพาะมุมมองวิดีโอแบบเดียว (เห็นผู้พูดหรือหน้าจอที่แชร์อย่างใดอย่างหนึ่ง) ไม่รองรับมุมมองแบบ Gallery, Large gallery, หรือ Together mode

    ที่มา:
    https://learn.microsoft.com/en-us/microsoftteams/plan-meetings
    https://learn.microsoft.com/en-us/microsoftteams/view-only-meeting-experience

  • การเพิ่มโพลลงในอีเมล Outlook แบบกดโหวตได้เลย ไม่ต้องเปิดลิงก์ใหม่

    การเพิ่มโพลลงในอีเมล Outlook แบบกดโหวตได้เลย ไม่ต้องเปิดลิงก์ใหม่

    อยากทำโพลส่งทางอีเมล ให้ลูกค้าหรือพนักงานโหวตจะทำอย่างไรได้บ้าง? หากเป็นสมัยก่อนเราจะต้องใช้บริการ Microsoft Form, Google Form, Survey monkey, Typeform หรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ จากนั้นจึงนำลิงก์โพลแนบลงไปในอีเมล

    เพราะเราสามารถเพิ่มโพลแนบไปกับอีเมลของ Outlook ได้ ที่สำคัญฝั่งผู้รับสามารถเปิดอีเมลและกดโหวตได้ทันที ไม่ต้องเปิดลิงก์ใหม่ หรือแท็บใหม่

    วิธีการเพิ่มโพลในอีเมล

    1.สร้างอีเมลใหม่ “New Email”

    2.คลิกที่เมนู “Insert” จากนั้นเลือก “Poll”

    3.ระบบจะเปิดเมนู Polls ขึ้นมาด้านขวา คุณสามารถตั้งคำถามโพลได้ทันทีจากเมนูนี้ (ระบบรองรับคำถาม 1 คำถาม และคำตอบ 2 ประเภท คือ Single Choice และ Multiple Choice)

    4.จากนั้นคลิกที่เมนู “Next” (หากเป็นคำถามประเภท Multiple Choice อย่าลืมกดเปิดเมนู Multiple answers ด้วย)

    5.ระบบจะพรีวิวคำถาม หากพึงพอใจแล้ว สามารถคลิกที่ “Add to email” เพื่อแนบโพลดังกล่าวลงในเนื้อหาของอีเมล หากต้องการแก้ไขสามารถกดคลิกที่ “Edit”

    6.คำถามที่เป็นโพลจะถูกเพิ่มลงในอีเมล หากตรวจสอบข้อมูลถูกต้องเรียบร้อย สามารถกดส่งออกอีเมลได้ตามปกติ

    7.ตัวอย่างการแสดงผลอีเมลของฝั่งผู้รับ สามารถกดโหวตและเห็นผลลัพธ์ได้ทันที

    ข้อจำกัด

    ระบบสามารถแสดงโพลในฝั่งผู้รับที่เปิดด้วยแอปพลิเคชัน Outlook เท่านั้น หากเป็นผู้ให้บริการรายอื่น Google จะไม่สามารถแสดงผลได้ รวมถึงบริการ Outlook.com ก็ไม่สามารถที่จะแสดงผลได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ระบบจึงได้แนบลิงก์สำหรับโหวตไว้ให้ ผู้รับอีเมลสามารกดคลิกที่ลิงก์เพื่อโหวตได้

    ตัวอย่างอีเมลของฝั่งผู้รับที่เป็น Google
    ตัวอย่างอีเมลฝั่งผู้รับที่เป็น Outlook.com
  • Office Insider ที่สุดของเอกสิทธิ์ เข้าถึงและทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร

    Office Insider ที่สุดของเอกสิทธิ์ เข้าถึงและทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร

    Office Insider คืออะไร ?

    โปรแกรมพิเศษจาก Microsoft ที่จะมอบเอกสิทธิ์ในการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ของโปรแกรมตระกูล Office ประกอบไปด้วย Word, Excel และ PowerPoint ก่อนใครเพื่อน นอกจากนั้นเรายังสามารถฟีดแบ็ก ติชม ส่งเสียงหา Microsoft เกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้งาน หรือการพบบัคต่าง ๆ เพื่อให้เวอร์ชั่นเต็มที่เขาจะปล่อย ถูกใจผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มากที่สุด

    Office Insider มีกี่ระดับ

    ระดับของ Office Insider มีทั้งหมด 2 ระดับ ซึ่งมีข้อแตกต่าง ระยะเวลาในการอัปเดตและรายละเอียดดังนี้

    • เบต้า (Beta Channel) อัปเดตเร็วกว่า ถี่กว่า เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร
      สายเร็วต้องชอบ! เพราะ Beta Channel จะทำให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์และความสามารถใหม่ ๆ ได้รวดเร็วมากที่สุด เร็วถึงขนาดขั้นที่ว่า Microsoft ประกาศฟีเจอร์ใหม่ปุ๊ป เตรียมกดปุ่มอัปเดตได้เลย
    • ช่องทางปัจจุบัน พรีวิว (Current Channel (Preview)) เสถียรกว่า ไม่อัปเดตบ่อยให้รำคาญใจ
      สายมั่นใจ อัปเดตไม่บ่อย ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง มีความเสถียรสูงและความเสี่ยงพบเจอบัคน้อยกว่ารุ่น Beta

    เข้าร่วมอย่างไร ?

    สำหรับอุปกรณ์ Windows ให้เปิดโปรแกรม Office ขึ้นมาหนึ่งโปรแกรม (ในรูปภาพสาธิตโดยใช้โปรแกรม Microsoft Word) จากนั้นกดคลิกที่เมนู File > Account > Office Insider > Change Channel เลือกระดับ Insider ที่คุณต้องการได้เลย

    หากเมนูดังกล่าวไม่ขึ้น อาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ให้ตรวจสอบรุ่นและลายเซ็น รวมถึงนโยบายขององค์กรที่คุณใช้ หากคุณยอมรับความเสี่ยงได้ คุณสามารถแก้ไขค่าใน Registry เพื่อบังคับให้ระบบแสดงผลเมนู Insider โดยสามารถอ่านรายละเอียดวิธีการทำ รวมถึงดาวน์โหลดไฟล์ Config ได้จากบทความ Switching between Microsoft 365 Apps for Business/Enterprise, Current, Preview and Beta Channel (Office Insider) without re-installing – MSOutlook.info

    Office Insider มีใช้ให้งานในแอปและระบบปฏิบัติการใดบ้าง ?

    ที่มา: Handbook (office.com)

  • ไม่ต้องห่วงเรื่องไฟล์บันทึกการประชุมบน Teams หายจากนโยบายใหม่ ให้ Power Automate จัดการสำรองอัตโนมัติ

    ไม่ต้องห่วงเรื่องไฟล์บันทึกการประชุมบน Teams หายจากนโยบายใหม่ ให้ Power Automate จัดการสำรองอัตโนมัติ

    หลังจากประกาศของ Microsoft ฉบับที่ MC274188 เรื่อง (อัปเดต) ไฟล์บันทึกการประชุมบน Teams หมดอายุอัตโนมัติใน OneDrive และ SharePoint ซึ่งมีเนื้อหาใจความเกี่ยวกับการเพิ่มวันหมดอายุของไฟล์บันทึกการประชุมผ่านโปรแกรม Microsoft Teams

    โดยนโยบายใหม่นี้ ไฟล์บันทึกการประชุมจะหมดอายุอัตโนมัติใน 120 วัน หลังจากที่มีการบันทึกหากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ยกเว้น License A1 จะได้รับการตั้งค่าเริ่มต้นสูงสุดที่ 30 วัน (หากไฟล์ถูกลบออกแล้ว เราจะสามารถกู้คืนไฟล์จากถังรีไซเคิลได้นานถึง 90 วัน) นโยบายดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อไฟล์เก่าที่ได้มีการบันทึกก่อนหน้านี้

    ดังนั้นวันนี้เราจึงจะประยุกต์ใช้เครื่องมือ Power Automate เพื่อสั่งการให้ย้ายไฟล์บันทึกการประชุมจากโฟลเดอร์ Recording ไปยังโฟลเดอร์ใหม่อัตโนมัติหลังการประชุมเสร็จสิ้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะทำให้ตัวกำหนดวันหมดอายุของไฟล์ไม่ทำงาน

    เริ่มใช้ Power Automate

    1. เข้าสู่เว็บไซต์ Power Automate | Microsoft Power Platform

    2. จากนั้นกดคลิก Sign In เพื่อเข้าสู่ระบบ

    3. กดคลิกที่เมนู Templates จากนั้นระบุคีย์เวิร์ดในช่องค้นหาว่า “OneDrive Move File” กดค้นหา หลังจากนั้นให้คลิกที่ Template แรกที่ปรากฏ ชื่อเทมเพลตเต็ม ๆ ว่า “Move workfiles form one folder to other folder in OneDrive for Business”

    4. หลังจากกดคลิกเรียบร้อย ให้ตรวจสอบการอนุญาตให้ Power Automate ให้สามารถเข้าถึง OneDrive ของท่านได้ จากนั้นคลิก Continue

    5. ท่านจะพบกับหน้าต่างดังนี้ ให้พักไว้ก่อน

    6. ให้ท่านเปิดแท็บใหม่ขึ้นมา และเข้าสู่ OneDrive for Business ของท่าน เพื่อดำเนินการสร้างโฟลเดอร์จัดเก็บบันทึกการประชุมใหม่ ดังตัวอย่าง ได้มีการสร้างโฟลเดอร์ RecordingBackup เพิ่มขึ้นมา จากเดิมมีเพียงโฟลเดอร์ Recordings ซึ่งสร้างอัตโนมัติจาก Teams อยู่แล้ว เมื่อสร้างโฟลเดอร์สำรองเสร็จเรียบร้อย กลับไปเปิดหน้า Power Automate ที่ค้างไว้

    7. ดำเนินการตั้งค่าที่กล่องแรก When a file is created ให้กดเลือกตำแหน่งฟอเดอร์ โดยคลิกที่หมายเลข 1 จากนั้นเลือกโฟลเดอร์ที่มีการจัดเก็บไฟล์การประชุมของท่าน ดังตัวอย่างจะกดคลิกที่หมายเลข 2 ชื่อโฟลเดอร์ว่า Recordings (บางองค์กรอาจมีการตั้งชื่อโฟลเดอร์บันทึกการประชุมเป็นชื่ออื่น โปรดตรวจสอบและเลือกให้ตรงกับโฟลเดอร์ที่มีการบันทึกของท่าน)

    8. หน้าตากล่องแรก When a file is created เมื่อตั้งค่าโฟลเดอร์ต้นทางเรียบร้อย จะปรากฏดังภาพ

    9. จากนั้นไปตั้งค่าต่อที่กล่องที่ 2 Create file ให้ท่านทำคล้ายกับขั้นตอนที่ 7 แต่เปลี่ยนโฟลเดอร์เป็นโฟลเดอร์ปลายทาง ซึ่งในที่นี้ได้เลือกโฟลเดอร์ RecordingsBackup

    10. กล่องที่ 3 เป็นคำสั่งลบไฟล์บันทึกการประชุมเดิมทิ้ง หลังจากที่มีการโอนย้ายไฟล์ไปยังที่ใหม่เสร็จเรียบร้อย ซึ่งท่านจะลบกล่องนี้ออกหรือไม่ก็ได้ หากท่านไม่ลบออก ไฟล์บันทึกการประชุมของท่านจะย้ายไปอยู่ที่ใหม่เพียงที่เดียว ซึ่งมีข้อเสียคือ สมาชิกท่านอื่นในห้องประชุม จะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์บันทึกการประชุมของท่านได้อีก โดยจะแสดงผลดังภาพที่ 11

    แต่หากท่านต้องการให้ผู้เข้าร่วมประชุมท่านอื่นยังคงสามารถเข้าถึงไฟล์บันทึกการประชุม (โดยไฟล์นี้จะมีวันหมดอายุตามนโยบายใหม่) ท่านสามารถลบกล่องที่ 3 Delete file ออกได้ทันที

    ภาพที่ 11 หากคงการตั้งค่าของกล่องที่ 3 Delete File ไว้ ผู้เข้าร่วมประชุมท่านอื่นจะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ได้

    11. หลังจากตั้งค่าทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย สามารถกด “Save” ได้ทันที

    ทดลองใช้งาน

    1. สร้างการประชุม Teams และบันทึกการประชุมตามปกติ

    2. จากนั้นจบการประชุม และตรวจสอบโฟลเดอร์ใหม่ว่ามีการโอนย้ายไฟล์อย่างถูกต้อง เรียบร้อยหรือไม่ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการให้ Power Automate จัดการสำรองอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไฟล์บันทึกการประชุมบน Teams หาย

    สำหรับสถาบันการศึกษาที่สนใจโซลูชัน Office 365 สามารถติดต่อได้ที่ลานนาคอม
    Email : [email protected]
    Line Official Account: https://line.me/ti/p/@lannacom