ผู้เขียน: Damrongsak

  • รีวิวทำบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษา ธนาคารกรุงศรี

    รีวิวทำบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษา ธนาคารกรุงศรี

    ผ่อน 0% 10 เดือน, รับเครดิตเงินคืน, โปรพิเศษ เราเห็นคำเหล่านี้จนชินตาตามร้านอาหาร ร้านโทรศัพท์ บางเดือนมีโปรพิเศษลดแลกแจกแถมแล้วยังได้เครดิตเงินคืนอีก แต่แล้วจะทำยังไงได้ ในเมื่อมันมีดอกจันทร์ตัวใหญ่ ๆ ว่า “สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตธนาคาร….” เท่านั้น

    บัตรเครดิต ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลเม็ดของทางธนาคาร ที่ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น บางคนที่บริหารเงินเป็นบัตรเครดิตก็ก่อให้เกิดประโยชน์กับเขาเป็นอย่างมาก ทั้งสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ เงินที่ได้คืน แต่กับคนบางคนที่ไม่ได้บริหารหรือวางแผนการเงินไว้ ก็กลับก่อให้เกิดหนี้ก้อนใหญ่ 

    บัตรเครดิตสำหรับนักศึกษา ถือเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่มีความโดดเด่น โดยการลงมาจับกลุ่มตลาดนักศึกษา ให้สิทธิพิเศษเท่าเทียมกับผู้ที่มีรายได้ประจำ เพียงแค่มีเงินฝากทิ้งไว้ที่ธนาคารขั้นต่ำ 10,000 บาท แถมยังเลือกสมัครได้หลากหลายบัตรตั้งแต่ VISA, MASTER CARD ไปจนถึง JCB 

    ไปเปิดบัตรเครดิตใบแรกกันเถอะ

    มุ่งตรงไปยังธนาคารกรุงศรี สาขาที่ใกล้บ้านคุณมากที่สุด แจ้งกับพนักงานกดบัตรคิวว่า “ทำบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษา” สำหรับสาขาที่ผมไปสมัครคือเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต พนักงานกดบัตรคิวคือพี่ยาม แต่ข้อมูลพี่ยามแหน่นมากประหนึ่งว่าเป็นเทลเลอร์มาเอง หลังจากได้บัตรคิวแล้วก็ไปนั่งรอ จนกระทั้งพี่พนักงานผู้หญิงเรียกคิว

    “สวัสดีครับ ทำบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษาครับ” ผมพูดพร้อมยื่นหลักฐานเป็นบัตรประชาชน บัตรนักศึกษา และ สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่มีเงินค้ำประกันตามที่ธนาคารกำหนด (ถ้ายังไม่มีบัญชีของธนาคารนี้ก็แจ้งพนักงานให้เปิดไปพร้อมบัตรได้เลยนะครับ) หลังจากนั้นพนักงานจะหยิบเอกสารมาให้เรานั่งเขียน และนั่งเซ็น ซึ่งมันเยอะมาก ๆ ระวังในการเขียนผิดด้วยนะครับ

    ใบสมัคร บัตรเครดิตสำหรับนักศึกษา
    ใบสมัครบัตรเครดิต ธนาคารกรุงศรี

    หลังจากนั้นพนักงานก็จะถามว่า เราสนใจสมัครเป็นบัตรเครดิตใบไหน ซึ่งผมเลือกบัตร JCB Platinum ไป เป็นเพราะเมื่อ 2 ปีก่อน สายการบินบางกอกแอร์เวย์เคยออกโปรโมชั่นบินในประเทศเหลือ 100 บาท เพียงสำรองที่นั่งล่วงหน้าและชำระผ่านบัตรเครดิต JCB ผมก็เลยเลือกที่จะสมัครบัตรนี้ครับ (เผื่อว่าในอนาคตอาจจะมีโปรแบบนี้มาอีก)

    หลังจากนั้น 6 วัน มี SMS เข้ามาที่โทรศัพท์ของผมแจ้งว่าทางธนาคารได้อายัดเงิน ตามจำนวนที่เราฝากค้ำประกันบัตรเครดิตไว้

    โดนอายัดเงินแล้ว

    ถัดไปอีก 4 วัน ฝ่ายสินเชื่อจะติดต่อเรา เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าเราได้เป็นคนขอสมัครบัตรเครดิตจริง และเป็นการยืนยันที่อยู่ในการจัดส่งบัตรอีกด้วย

    เขาโทรมาแล้วรับไม่ทัน จึงต้องโทรกลับไป

    2 วันถัดมา ได้รับ SMS ว่าบัตรเครดิตได้รับการอนุมัติแล้ว อีก 10 วัน บัตรถึงจะจัดส่งมา

    SMS แจ้งอนุมัติการสมัครบัตรเครดิต

    บัตรมาส่งแล้วว

    8 วันต่อมา และแล้วบัตรเครดิตก็ส่งมาถึงที่บ้าน ตัวบัตรถูกจัดส่งมาในซองสีเทาขนาดกลาง มีความหนาและถูกผนึกด้วยสติ๊กเกอร์กรุณาปฏิเสธหากชำรุดฉีดขาด

    ซองจดหมาย
    ในซองจดหมายจะประกอบไปด้วย ตัวบัตร, ข้อตกลงในการใช้บัตร และแผ่นผับประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นในการใช้บัตร

    และแล้วก็ถึงเวลาเปิดตัวบัตรที่นกกระดาษบินเต็มบัตร แถ่น..แทน..แท้นน

    ตามจริงตัวอักษรจะมีสีเงิน ๆ ปาดทับอยู่นะครับ แต่ผมขูดมันออกหมด สาเหตุก็เพราะใช้บัตรไปซักพักมือเงาวับ แถมตัวอักษรบนบัตรก็จาง ๆ ก็เลยขูดมันออกหมดเลย

    รายละเอียดเพิ่มเติม : บัตรเครดิตสำหรับนักศึกษา ธนาคารกรุงศรี

  • กว่าจะเป็น “นพรัตน์ทองคำ” ฝ่ายชายคนที่ 32

    กว่าจะเป็น “นพรัตน์ทองคำ” ฝ่ายชายคนที่ 32

    นพรัตน์ทองคำ เป็นการประกวดภายในมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพื่อเฟ้นหานักศึกษาที่มีความพร้อมครบทั้ง 9 ประการตามความหมายของคำว่านพรัตน์โดยผู้เข้าร่วมประกวดทุกคนจะต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกที่ตั้งไว้สูง ทั้งยังต้องผ่านการเคี่ยวที่เข้มข้นจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางคณะกรรมการได้จัดขึ้น

    เมื่อโอกาสมาจงคว้ามันไว้

    ย้อนกลับไปเมื่อสมัยเป็นเฟรชชี่ ผมได้เห็นข่าวการประกวดนพรัตน์อยู่หลายครั้ง ทั้งข่าวการรับสมัคร ข่าวการทำกิจกรรม รวมไปถึงการประกาศผลผู้ที่รับตำแหน่งในปีนั้น อาจารย์หลาย ๆ ท่านก็เคยพูดถึงว่าเป็นการประกวดนี้ว่าเป็นการประกวดที่สูงที่สุดในมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีเกณฑ์คัดเลือกที่สูง กิจกรรมที่ต้องทำให้ครบทุกเงื่อนไข เพราะฉะนั้นใครที่ผ่านการประกวดนี้มาได้ ไม่จำเป็นจะต้องชนะเป็นอันดับ 1 ก็ถือได้ว่ามีความสามารถ ความโดดเด่นอยู่พอสมควร

    เมื่อขึ้นปี 3 เทอม 2 ผมได้เห็นโปสเตอร์การรับสมัครในช่วง 2 วันสุดท้ายก่อนหมดเขตส่งใบสมัคร เมื่อผมได้ทำการอ่านอย่างละเอียดก็พบว่าเงื่อนไขผมผ่านทุกอย่าง ทั้งเกรดเฉลี่ย ภาษา และพฤติกรรม แต่ผมลังเลที่จะเข้าประกวดในครั้งนี้มาก เพราะเมื่ออ่านเอกสารอีกรอบพบว่าการส่งเข้าประกวดสามารถทำได้ 2 วิธี คือ ส่งชื่อตัวเอง หรือให้ทางคณะเป็นคนส่ง ในใจตอนนั้นสับสนมาก โดยส่วนตัวเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว ผมคิดไปถึงกระทั้งว่า ถ้าเราส่งชื่อตัวเอง คนอื่นจะมองว่าเรามั่นปะวะ อาจารย์ในคณะเขาจะคิดอะไรยังไงกับเรา ทั้ง ๆ ที่ในเกณฑ์การประกวดก็เปิดกว้างอิสระให้แต่ละคณะส่งผู้เข้าประกวดจำนวนกี่คนก็ได้ แต่ผมก็ยังคิดมากอยู่ดี

    แรงผลักดัน

    เหมือนการคิดมาก และการอยากประกวดของผม จะเป็นระบบอัตโนมัติส่งโทรจิตไปหาอาจารย์ท่านหนึ่งในสาขา ในช่วงเที่ยงของวันนั้นเอง อาจารย์ ณัทธสิฐษิ์ สิริปัญญาธนกิจ ก็ส่งข้อความเข้าเฟซบุ๊กเมสเสนเจอร์ แนะนำการประกวดนี้ ทั้งยังย้ำถึงสิ่งที่จะได้รับ หากเข้าร่วมประกวด ท่านก็ถามผมว่าสนใจจะเข้าประกวดไหม โอกาสมาอยู่แค่เอื้อมมือขนาดนี้แล้ว อาจารย์ในคณะก็สนับสนุนอีก คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะตอบปฏิเสธไป

    ปฐมนิเทศ

    การประกวดได้เริ่มต้นขึ้น วันแรกที่เราจะได้พบผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ และท่านคณะกรรมการคือวันปฐมนิเทศนั้นเอง ในวันนั้นตามกำหนดการได้ระบุว่าการปฐมนิเทศจะเริ่มต้นขึ้นในเวลาประมาณ 14.00 น. แต่วันนั้นผมเลิกเรียนตั้งแต่ 12.00 น. หากจะให้รออยู่เฉย ๆ 2 ชั่วโมง คงจะเฉาแย่ ผมก็เลยตัดสินใจจะไปเดอะมอล์กับเพื่อน อีกทั้งผมถึงวันนัดบริจาคเลือดพอดี จึงคิดว่าหากทำธุระ ทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนเสร็จแล้ว ก็คงจะแวะไปบริจาคเลือด แล้วค่อยวกกลับไปงานปฐมนิเทศ

    13.45 น. ผมยังต่อคิวรับบริจาคเลือดอยู่ ความคิดในหัวตอนนั้นเริ่มตีกันเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ ก็เลยบอกกับพี่พยาบาลว่าถ้างั้นผมขอเก็บใบนี้ไว้ก่อน เพราะผมต้องกลับไปปฐมนิเทศในเวลา 14.00 น. ถ้าเลิกเร็วเดี๋ยวผมจะกลับมาอีกรอบ เป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก ที่ผมวางเวลาไว้แบบนี้

    แน่นอนครับ ความผิดพลาดจึงเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกในการประกวด เพราะผมไปปฐมนิเทศ “สาย” ผมไปถึงหน้างานตอน 14.05 น. หากจะดูแบบผิวเผินมันก็คือ 5 นาที แต่ทว่ามันเป็นการพบกันครั้งแรก ผมคงทำให้หลาย ๆ ท่านมองผมไม่ดีอยู่ไม่น้อยในเรื่องความรับผิดชอบและการตรงต่อเวลา ที่สำคัญคืองานปฐมนิเทศเริ่มก่อนเวลา เมื่อผมเปิดประตูห้องเข้าไป คุณพระนี้น่าจะถือได้ว่ากลางงานแล้ว ตอนต้นพวกเขาพูดอะไรกัน นัดแนะอะไรกันหรือเปล่า ในใจตอนนั้นกระวนกระวายเป็นอย่างมาก ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียว ทำตัวนิ่ง ๆ มองหาที่นั่งที่ว่าง และนั่งลงไป

    ปฐมนิเทศนพรัตน์ทองคำ
    ผู้เข้าร่วมการปฐมนิเทศนพรัตน์ทองคำครั้งที่ 32

    พี่ปุ๊ หนึ่งในทีมงานการประกวดก็เดินเข้ามาหาผมในอีก 2 – 3 นาทีถัดมา บอกให้ผมออกไปข้างนอก เพื่อจะลงทะเบียนเข้าร่วมงานและจับหมายเลขผู้เข้าประกวดในครั้งนี้ เมื่อพี่ปุ๊ เห็นลายมือ เขาก็จำใบสมัครของผมได้ทันทีว่าเป็นของใคร พี่เขายังแซวด้วยว่าอาจารย์ ณัทธสิฐษิ์ เพิ่งวิ่งมาส่งในวันสุดท้ายของวันรับสมัคร หลังจากเซ็นชื่อเข้าร่วมงานเสร็จ พี่ปุ๊ ก็หยิบโถฉลากมา โถใบนั้นมีกระดาษม้วนหมายเลขเหลืออยู่ประมาณ 5 ใบ มือซ้ายของผมเคลื่อนเข้าไปในโถ คนทุกใบให้คละกันพอเป็นพิธี ผมหยิบได้หมายเลข 36

    อย่างเหลือเชื่อ

    เมื่อผมกลับเข้ามาในงาน พี่ทีมงานอีกท่านก็เข้ามาถามผมว่าผมนั่งหมายเลขอะไร เพราะทุกที่นั่งได้งานมีหมายเลขประจำเก้าอี้อยู่ ผมตอบกลับไปว่า “36 ครับ” เหลือเชื่อครับ ที่นั่งตรงนั้นก็คือที่ผมเข้ามานั่งในตอนแรก ไม่ได้โดนเปลี่ยนที่ไปแต่อย่างใด

    เมื่อการปฐมนิเทศเสร็จสิ้นลงผมไม่รอช้าที่จะถามเพื่อนสนิทผมว่าตอนต้นผมพลาดอะไรบ้าง เขาบอกผมว่า เขาเลือกประธาน รองประธานการประกวดไปแล้ว นัดแนะกำหนดการแข่งขันกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งยังกำหนดวันส่งแฟ้มสะสมผลงานแล้วด้วย โชคดีที่ว่าการพูดคุยในวันนี้ทั้งหมด จะมีการสรุปลงไลน์กลุ่ม ทำให้ผมไม่พลาดกับสิ่งที่สำคัญ

    ผู้เข้าประกวดนพรัตน์ทองคำครั้งที่ 32 ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
    ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน

    แฟ้มสะสมผลงาน

    แฟ้มสะสมผลงาน
    หน้าปกแฟ้มสะสมผลงานของ ดรศ

    แฟ้มสะสมผลงานมีน้ำหนัก 5 คะแนน โดยส่วนตัวมองว่าการจะทำคะแนนในส่วนนี้ให้ดีที่สุด ไม่ใช่การมีผลงานเยอะเพียงอย่างเดียว สิ่งที่เป็นกลยุทธ์หลักของผมในการเก็บคะแนนจากส่วนนี้คือการเรียบเรียงเอกสาร เรียบเรียงผลงานทุกอย่างออกมาอย่างมีระบบ  แบ่งหัวข้อ แบ่งหมวดหมู่ โดยส่วนตัวเป็นคนที่มีผลงานกับกิจกรรมในมหาวิทยาลัยค่อนข้างน้อย แต่จะเน้นทำกิจกรรมกับสังคมภายนอกมากกว่า เพราะฉะนั้นการเรียบเรียงอย่างมีระบบ คัดผลงานเด่น ผลงานรอง จัดลำดับหน้าดี ๆ ก็คงจะช่วยเสริมความมั่นใจของแฟ้มเราได้ไม่น้อย

    หมวดหมู่ในแฟ้มสะสมผลงาน
    การแบ่งหมวดหมู่ในแฟ้มสะสมผลงาน

    อีกอย่างการเขียนเรียงความเกี่ยวกับตัวเอง ควรเขียนเรียงตามลำดับเวลาตั้งแต่ประถม มัธยม ไปจนกระทั้งถึงมหาวิทยาลัย แสดงให้เห็นว่าตนเองผ่านกิจกรรมอะไรมาบ้าง ได้ทำอะไรเพื่อส่วนร่วมบ้าง อย่างน้อยที่สุดก็คงทำให้ผู้อ่านซึ่งเป็นกรรมการสามารถร้อยเรียงเรื่องราวต่าง ๆ ได้

    เรียงความ
    ควรเขียนเรียงตามลำดับเวลา

    ทักษะทางเทคโนโลยี

    ทักษะทางเทคโนโลยีมีน้ำหนัก 15 คะแนน  นับตั้งแต่เข้าอบรมวันแรกก็เรียกได้ว่างานช้าง เพราะคะแนนหลักที่จะได้จากทักษะนี้มาจากการทำแฟนเพจเฟซบุ๊กเผยแพร่เรื่องเกี่ยวกับนพรัตน์ทองคำ ที่ผมให้คำจำกัดว่างานช้างก็เพราะว่า งานแฟนเพจเฟซบุ๊กเป็นงานที่ต้องอาศัยความต่อเนื่อง ความตั้งใจ และการสือเสาะแสวงหาข้อมูลมาลงเพจอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ข้อมูลใน Page insight ตกลงไป

    ทักษะทางเทคโนโลยี
    ผู้เข้าร่วมประกวดทุกคนกำลังตั้งใจฟัง อ.ลลิตา

    การจัดกลุ่มทำเพจ พี่ ๆ กรรมการเป็นคนจัดกลุ่มให้กับผู้เข้าประกวด กลุ่มที่ผมอยู่มีคนจากหลากหลายคณะ ซึ่งเป็นคนที่ผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าหน้าใหม่ ทำตัวกันไม่ถูกเลยทีเดียว

    ให้ความสำคัญกับทุกคน กับทุกความคิดเห็น

    การวางตัวเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะต่างคนมาจากต่างที่ เขาไม่รู้ว่าเราเป็นคนแบบไหนกับการทำงาน เราก็ไม่รู้เขาเหมือนกันว่าจะตั้งใจทำงานแค่ไหน เขาจะฟังเราไหม เราจะเห็นด้วยกับเราหรือเปล่า เพราะฉะนั้นในการเริ่มการทำงานกลุ่มกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ก็คือการต้องทำความรู้จักกัน หาเรื่องคุย เรื่องที่เรากับเขามีแนวทางไปในแนวเดียวกัน เรื่องราวเหล่านี้จะช่วยเสริมให้เราสนิทกันได้ง่ายขึ้น ทั้งยังส่งผลให้งานออกมามีประสิทธิภาพ อีกอย่างที่สำคัญก็คือการรับฟังทุกความเห็น ซึ่งในบางครั้งก็ทำให้เราได้มุมมองหรือแนวคิดในการทำงานใหม่ ๆ ผมจึงวางแผนการทำงานเพจ โดยแบ่งงานให้ทุก ๆ คนเท่ากัน (ให้ความสำคัญกับทุกคน ทุกความเห็น) งานแรกที่ทำช่วยกันออกความคิดเห็นคือชื่อเพจ

    ดรศ ลองใช้ canvas
    ใช้เทมเพลตไหนดี ?

    การคิดชื่อเพจนี้ยากพอ ๆ กับการหาเสียงประกอบมาลงในวิดีโอ เพราะกลุ่มผมตั้งใจว่าแค่อ่านชื่อนี้ก็ต้องเข้าใจว่ากลุ่มเราทำอะไร เพจเราจะนำเสนอเนื้อหาไปในทิศทางไหน ผ่านไปประมาณ 20 นาที จึงคลอดชื่อ Nine Navigator ออกมาได้ คอนเซปคร่าว ๆ คือเส้นทางสู่การเป็นนพรัตน์

    หลังจากจบการอบรมทักษะไอทีก็มีการสื่อสารกันต่อผ่านกลุ่มไลน์ จนได้โลโก้และหน้าปกเพจออกมา

    หน้าแฟนเพจเฟซบุ๊กกลุ่ม https://facebook.com/NineNavigator/

    ซึ่งเพื่อน ๆ เป็นคนโหวตให้ผลงานของผม ถูกนำมาใช้ในเพจจริง

    เนื้อหาและความต่อเนื่อง

    การแข่งขันในส่วนนี้วัดกันที่เนื้อหาและความต่อเนื่องกันเป็นหลัก นั้นหมายความว่ากลุ่มไหนสามารถแสวงหาเนื้อหามาลงได้บ่อยที่สุด ถี่ที่สุด และมีประโยชน์ที่สุดกลุ่มนั้นก็มีโอกาสที่จะชนะในหัวข้อนี้สูงอีกด้วย

    ตัวอย่างโพสต์ของผม

     

    ทักษะการสื่อสาร

    ในทักษะนี้เป็นการคัดในหลายส่วนกิจกรรมเป็นอย่างมาก และมีรางวัลพิเศษสำหรับทักษะนี้ด้วย

    ภาษาประจำชาติ ผู้เข้าร่วมประกวดจำเป็นจะต้อง อ่านจับใจความ สรุปใจความ รวมไปถึงเขียนเรียงความในประเด็นที่กำหนดไว้ให้

    นั่งตากลมรอโจทย์ทักษะภาษาไทย

    ภาษาต่างประเทศ ผู้เข้าร่วมประกวดจะต้องนำเสนอเนื้อหาที่ตนเองสนใจ ในภาษาต่างประเทศที่ตนเองถนัด เมื่อนำเสนอเสร็จสิ้นแล้วคณะกรรมการจะถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เรานำเสนอไป

    สอบปากเปล่าภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว

    การนำเสนอ ในส่วนนี้ทางคณะกรรมการจะมีโจทย์มาให้เราทำการนำเสนอ อย่างเช่นในปีผม ได้รับโจทย์ว่าเป็นเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือบริการ ที่ใช้การเรียนรู้แบบ STEM มาสร้างสิ่งที่เปลี่ยนวิถีชีวิตได้ โดยมีข้อแม้ว่าสิ่งที่เราจะนำเสนอจำเป็นจะต้องเกี่ยวกับสาขาที่ตนเองเรียนด้วย เนื่องจากผมเรียนสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ ผมเลยนำเสนอเครื่องมือประชาสัมพันธ์ที่ผู้ลงข่าว สามารถเลือกจุดหมายปลายทาง และดูรายงานผลลัพธ์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องจ้างเอเจนซี่มาจัดการให้ นอกจากนี้ส่วนที่จะเป็นคะแนนหลักไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาเพียงอย่างเดียว อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ บุคลิกและทักษะในการนำเสนอ จำเป็นจะต้องทำถูกทุกท่วงท่า ใช้มือให้ถูก ใช้ขาให้ถูก เน้นประโยคให้ถูก ถึงจะได้คะแนนที่สูงในส่วนนี้ไป

    หารูปตัวเองไม่เจอจากกิจกรรมนี้ เอารูปเพื่อนมาละกัน เป็นทักษะที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการนำเสนอมากที่สุด ตั้งแต่การยืน การวางมือ ไปจนกระทั้งการจัดวางข้อความ รูปภาพ บนสไลด์

    การเข้าค่ายนพรัตน์ทองคำ 3 วัน 2 คืน

    กิจกรรมนี้มีน้ำหนัก 20 คะแนน ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญระดับสูง ไฮไลท์ตัวแดงไว้เลย ทุก ๆ ย่างก้าว ทุก ๆ การขีดเขียน ทุก ๆ คำพูดที่ออกจากปากเรา จะถูกจับตาโดยกรรมการ เรียกได้ว่ามอนิเตอร์ตลอด 24/7 กันเลยทีเดียว

    16 มีนาคม 2561 (วันที่หนึ่ง)

    ตื่นนอนตอนเช้า คว้าผ้าเช็ดตัวรีบบึ่งเข้าไปในห้องน้ำ แต่งตัวด้วยความเร่งรีบ ด้วยความคิดที่ว่าวันนี้เราจะสายไม่ได้นะ ปรากฏไปทันเวลานัดตอน 6.30 น. นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นเพื่อน ๆ ร่วมทีม รวมทั้งได้เห็นป้ายชื่อ

    มีความหน้าเทา รวมทั้งเชิดหน้า เพื่อน ๆ ล้อตลอดวัน

    การเข้าค่ายครั้งนี้มีการแบ่งทีมไว้เรียบร้อย โดยมีทั้งหมด 4 สี คือ เขียว ม่วง ฟ้า และชมพู ส่วนผมนั้นได้อยู่ “สีม่วง” มีสมาชิกประมาณ 8 คน หลังจากได้รับป้ายชื่อเรียบร้อย หลังจากนั้นไม่นานรถก็เคลื่อนตัวออกจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ประมาณ 7 โมงกว่า ไปถึงสถานที่เราต้องทำกิจกรรมแรก

    บ้านถ้ำเสือ

    กำลังขะมักเขม้นกับการทำขนมทองม้วน

    หมู่บ้านแห่งนี้มีบรรยากาศที่สวยงามเป็นอย่างมาก พรรณไม้พฤกษามีหลากหลายวงปีตั้งแต่รุ่นเด็ก ๆ จนไปถึงรุ่นร้อยปี อีกทั้งการมาหมู่บ้านแห่งนี้ทำให้ผมได้เห็นต้นมเหสักข์กับสักข์สยามินทร์ ที่มีขนาดใหญ่หลายคนโอบเป็นครั้งแรก ซึ่งพี่ที่เป็นผู้ดูแลที่นี้บอกว่า หากตัดต้นนี้ไปขายจะสามารถขายได้หลายแสน

    การจะมาหมู่บ้านนี้เพื่อจะมาดูต้นไม้อย่างเดียวก็คงไม่ใช่วิถีของชาวนพรัตน์ กิจกรรมที่ผมได้ทำมีหลายอย่าง อาทิ การทำขนมทองม้วน ผู้สูงอายุในหมู่บ้านนี้ใช้เวลาว่างในการทำขนมทองม้วนขาย ซึ่งป้าที่สอนผมยังบอกอีกว่าแป้งที่ใช้ทำเป็นสูตรพิเศษเฉพาะของที่นี่ ถัดจากการทำขนมก็เป็นการทำ Seed bomb หรือการนำดินเหนียวมาห่อหุ้มเมล็ดพันธ์เพื่อที่จะได้นำหนังสติ๊กมายิงเมล็ดพันธ์ออกไป ผมสนุกกับกิจกรรมนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้หนังสติ๊ก

    เพื่อน ๆ กำลังปั้น Seed bomb

    หลังจากเพลิดเพลินไปกับสองกิจกรรมแรกก็มาจบที่การเรียนรู้การทำถ่าน ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า “หัวเหม็น” ควันโขมงโฉงเฉง คละคลุ้งไปทั่วบริเวณมาก แต่พี่ที่เป็นผู้นำฐานเขาก็เคลมว่าฐานของเขาใช้แล้วไม่ก่ออันตราย เพราะว่ามีการเผาไหม้ในอุณหภูมิที่สูง ต่อเนื่องในระยะเวลาที่เหมาะสม ทำให้ตัวถ่านมีความบริสุทธิ์ไม่สะสมสารอย่างอื่นไว้ อีกทั้งยังการทำถ่านของที่นี่ยังมีการใช้ตัวกรองควันเพื่อจะกรองเอาน้ำส้มควันไม้อีกด้วย

    เตาอิวาเตะ เตาที่ใช้ทำถ่าน

    หลังจากขอบคุณพี่ ๆ วิทยากรที่หมู่บ้านถ้ำเสือ รถก็มุ่งหน้าไปยัง “ฤทธิมา ศรีชุมแสง ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท” ซึ่งเป็นสถานที่ทำกิจกรรมทั้งหมดที่เหลือ  กิจกรรมในช่วง

    นั่งจำชื่อเพื่อนให้ได้ทั้งหมด

    17 มีนาคม 2561 (วันที่สอง)

    วันนี้ทั้งวัน ตารางแน่นมาก ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ในช่วงเช้าตื่นนอนมา มีการออกกำลังกาย ทานอาหารเช้า หลังจากนั้นก็คือการนั่งอบรม การอบรมในวันนี้ไม่ใช่การนั่งฟังเท่านั้น ผู้เข้าร่วมประกวดทุกคนจะต้องทำกิจกรรมร่วมไปด้วย เช่น การแก้ปัญหาขนส่งสิ่งของไปยังพื้นที่ประสบภัย โดยไม่ให้อุปกรณ์ ถุงยังชีพเสียหาย หรือตกหล่นออกมา

    ขณะกำลังทำยานขนส่งอุปกรณ์และถุงยังชีพด้วยถ้วยพลาสติก หลอด และโพสต์อิส

    เมื่อทุกกลุ่มออกแบบยานของตัวเองเสร็จแล้วก็จะมีการแข่งขันกันเกิดขึ้น โจทย์มีความยากขึ้นไปเรื่อย ๆ จากตอนแรกให้ยานลงพื้นโดยไม่เทมาร์ชเมโร่ออกมา ตอนหลังก็จะเป็นการจับเวลา ใครลงช้าสุดชนะ กลุ่มผมมีการปรับปรุงตลอดเวลา ทดลองอยู่เรื่อย ๆ เปลี่ยนระดับความสูง เปลี่ยนระดับความเร็วลมของพัดลมที่มาปะทะตัวยาน จนรอบการแข่งขันสุดท้ายมาถึง ผลปรากฏกลุ่มผมชนะไปด้วยเวลาฉิวเฉียดมาก ต้องตัดสินโดยใช้ภาพ Slow mode จากกล้อง iPhone

    3.2.1……

    หลังจากนั้นเป็นการแก้ปัญหาต่อเป็นรอบที่สอง จากตอนแรกเป็นการขนส่งของโดยใช้อากาศยาน รอบนี้เป็นการสร้างเรือ กลุ่มไหนสามารถสร้างเรือที่บรรทุกสิ่งของได้มากที่สุดชนะ ปรากฏทีมผมตกรอบแรกเลยครับ เพราะตัวเรือไม่มั่นคงจากการวางดินน้ำมันที่ไม่เท่ากันในแต่ละด้าน

    ลุ้นตัวโก่ง

    หลังจากจบทักษะด้านแก้ปัญหาไปในช่วงเช้า ช่วงบ่ายเริ่มเข้าสู่ความจริง เมื่อวิทยากรให้โจทย์คิดผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทักษะทางด้าน STEM มาใช้สร้างผลิตภัณฑ์นั้น กลุ่มผมเลือกทำแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับคนแก่ ที่ให้บริการครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การรักษาพยาบาล คนดูแล โซเชียลเฉพาะผู้สูงอายุ รวมไปถึงแหล่งทำกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม

    ทำอะไรดี ?

    หลังจากนั่งหาข้อมูล ทำสไลด์ ทำตัวอย่างเว็บไซต์ ร่าง UI ของแอปใน PowerPoint ไปได้เพียงแป็ปเดียว พี่ ๆ ที่คุมสันทนาการก็มอบหมายโจทย์เพิ่ม ให้คิดการแสดงมาหนึ่งชุดโจทย์คือ บุบเพสันนิวาส อินโนเวชั่น

    ว๊อททท เอาบุพเพมาร่วมกับนวัตกรรม เวลาตอนนั้นเหลือเพียงชั่วโมงเศษก็จะถึงช่วงเวลาการแสดง ทั้งยังมีโปรเจคที่ได้ไปเมื่อตอนบ่ายค้างอยู่ที่ตัวอีก 80% ตอนนั้นมีความรู้สึกไฟร่นก้นเป็นอย่างมาก อีกอันก็อยากทำให้ดีที่สุด แต่อันนี้จะทิ้งเลยก็ไม่ได้ โชคดีที่ว่าเพื่อน ๆ ในกลุ่ม 8 คน มีอย่างน้อย 3 คนที่ชมละครเรื่องนี้ เลยทำให้สามารถต่อบทกันได้อย่างรวดเร็ว

    ผมได้มีส่วนร่วมการแสดง โดยรับบทเป็นจ้อย ออกมาแค่ฉากเดียว นอกนั้นคุมภาพที่ปรากฏบนจอโปรเจคเตอร์

    แม่หญิงการะเกดกับบ่าวทั้งสอง

    การแสดงเสร็จสิ้นลงไป ก็เข้าสู่พิธีเทียน ผมแอบชอบพิธีเทียนของที่นี่นะ เพราะเขาให้ทุกคนพูด สิ่งที่อยากจะพูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกในใจ การโดนร้องขอ/บังคับให้เข้าประกวด ทุกคนได้พูดสิ่งที่อัดอั้นตันใจมาตลอด 2 วัน ทำให้ผู้เข้าร่วมประกวดทุกคนได้สนิทและได้รับรู้ความคิดของเพื่อนผ่านกิจกรรมนี้ครับ

    พิธีเทียน

    18 มีนาคม 2561 (วันสุดท้าย)

    ถามมว่าเมื่อคืนได้นอนไหม ตอบได้อย่างเต็มปากว่า 20 นาที เพราะนั่งปั่นโปรเจกสุดท้ายที่ต้องมานำเสนอในวันนี้ เรียกได้ว่าซึ้งกับพิธีเทียนเสร็จ เทียนนั้นก็ร้อนมารนก้นต่อ ทำให้ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน

    การนำเสนอผ่านพ้นไปด้วยดีครับ ได้รับคำชมจากคณะกรรมเยอะพอสมควร สาเหตุเป็นเพราะแผนธุรกิจ แผนนวัตกรรมชิ้นนี้ เป็นผลงานรวมกันของ 3 คน ซึ่งมาจากต่างคณะกัน เมื่อสามารถนำทักษะของเพื่อนแต่ละคนออกมาใช้ ผลงานก็เลยออกมาดี (นี่มันคือทีมเวิร์กชัด ๆ)

    Elder Care

    หลังจากนำเสนองานเสร็จสิ้น ก็เป็นรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และเก็บของกลับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เพื่อแยกย้ายกันกลับบ้านต่อไป

    เล็กแอนเดอะแก๊งค์

    ไฟนอลโปรเจกนพรัตน์ทองคำ (คะแนนเยอะสุด)

    การแข่งขันก้าวเข้ามาสู่ช่วงสุดท้าย โจทย์มันก็คือการนำ STEM มาสร้างนวัตกรรมอะไรบางอย่างที่อาจจะเคยมีมาแล้วแต่มาพัฒนาให้ดีขึ้น หรือไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้เลย ผมจำได้ว่าผมนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรดี เสียเวลาไปหลายวันมาก จนกระทั้งผมจะต้องไปติดต่อขอใช้สถานที่ที่สถานีตำรวจบางใหญ่ ผมเดินผ่านร้านขายพวงหรีด ไอเดียผมก็เข้ามาในหัวทันทีว่า จะทำเป็นพวงหรีดดิจิทัลดีไหม เพราะพวงหรีดปัจจุบันที่เป็นดอกไม้ใช้แล้วก็ทิ้งไป พวงหรีดที่เป็นผ้าห่มใครจะกล้าเอามาห่มบ้าง สู่เป็นพวงหรีดดิจิทัล เขียนความรู้สึกได้ ออกแบบดอกไม้ได้ เปลี่ยนพื้นหลังก็ยังได้อีก งานศพไหนมีก็คงจะดูดีไม่เบา

    ผมก็เลยเอาไอเดียนี้ไปปรึกษาพ่อ พ่อบอกผมมาว่า “พวงหรีดมันไม่ได้มีแค่ดอกไม้กับผ้าห่มนะ นั่นมันเป็นรุ่นแรก ๆ เดี๋ยวนี้เขานิยมเอาพัดลมมาผูกโบว์เป็นพวงหรีดแล้ว พอจบงานก็เอาพัดลมนั้นบริจาคให้วัด ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อไป” หลังจากได้ฟังความเห็นจากพ่อ ไอเดียทั้งหมดผมก็เลยยุติทิ้งมันไป

    คิดใหม่ ทำใหม่ ปรึกษาอาจารย์ในคณะรวมทั้งรุ่นพี่ที่จบไปแล้วว่าควรทำอะไรดี อาจารย์ที่สอนผมในเทอมนั้นเลยช่วยตบให้เดียให้ กลายมาเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ปกติเวลาจะลงโฆษณาในหนังสือ โทรทัศน์ เราจำเป็นจะต้องติดต่อสถานที่เหล่านั้นโดยตรง หากแต่เราต้องการจะประหยัดเวลาเราก็จำเป็นจะต้องจ้างเอเจนซี่ให้เขาจัดการให้ซึ่งก็มีราคาที่สูง เครื่องมือนี้ผู้ลงโฆษณา/ลงข่าว สามารถเลือกปลายทางได้เลยว่าต้องการจะลงกับใคร ในเรทราคาเท่าไหร่ ซึ่งเราครอบคลุมทั้งสื่อเก่า สื่อใหม่ และสื่อบุคคล (Influence) จึงกลายมาเป็นผลงาน Linkpost : A new era of PR tool

    ลิงก์โพสต์

    วันนำเสนองานไฟนอลโปรเจก

    เป็นอีกวันที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะได้ข่าวมาว่าคณะกรรมที่จะมาให้คะแนนในรอบนี้เป็นระดับ รศ.ดร. , ดร. หลายท่าน รวม ๆ แล้วคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั่งอยู่หน้าผมทั้งหมด 5 ท่าน ประกอบกับพี่ปุ๊เลือกให้ผมนำเสนอเป็นลำดับแรกความตื่นเต้นที่มีอยู่แล้วก็ทวีคูณเพิ่มขึ้นไป

    แต่เนื่องด้วยที่ผมซ้อมนำเสนอและตอบคำถามกับอาจารย์ณัทธสิฐษิ์ สิริปัญญาธนกิจ อาจารย์ประจำคณะนิเทศที่เคยเป็นนพรัตน์ทองคำฝ่ายชายมาก่อนแล้ว ทำให้ผมยังพอมีความมั่นใจอยู่บ้าง สำคัญที่สุดอาจารย์ได้แนะนำให้ผมปริ้นสไลด์ส่งกรรมการด้วย เพราะอาจารย์คิดว่าจะมีผู้เข้าประกวดไม่กี่คนเท่านั้นที่จะปริ้นส่งคณะกรรมการ

    เอกสารประกอบการนำเสนอ
    เล็ก เธอนำเสนอเป็นลำดับที่หนึ่งนะ พี่ปุ๊กล่าว

    ระยะเวลาในการนำเสนอถูกกำหนดไว้ที่ 10 นาที ไม่รวมเวลาถามตอบของคณะกรรมการ เมื่อผมนำเสนอจบลง คำถามถาโถมเข้ามาเยอะอย่างมาก เช่น ใช้ทักษะ STEM ด้านใดมาคิดงานนี้บ้าง, อินโฟว์เควสก็มีอยู่แล้วของเธอมีดีอะไร, จงบอกมาว่าในช่วงแรกการตลาดของเธอจะเป็นอย่างไหร่ เมื่อบริษัทส่วนใหญ่เขาจ้างเอเจนซี่ที่มีความสามารถสูงอยู่แล้ว, งานนี้จะหาทีมงานได้อย่างไร, จงบอกมา 3 เหตุผลที่ทำให้ลิงก์โพสต์จะต้องปิดตัวลง ฯลฯ

    สติสำคัญมากครับสำหรับการนำเสนอวันนี้ เพราะถ้าเราฟังคำถามไม่ละเอียด อาจทำให้ตอบเราไม่ตรงกับคำถามได้

    เตรียมโดนเชือด

    วันประกาศผล

    ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง จำได้ว่าก่อนออกจากหอตัวเอง ยังนั่งอารมณ์ดีดูข่าวทรัมป์กับคิมจับมือกันอยู่ ตอนเช้าของวันนี้ผมมีเรียนอยู่หนึ่งวิชาครับ หลังจากเรียนเสร็จผมชวนเพื่อน ๆ สนิทอีก 4 คนมาร่วมลุ้นไปกับผมด้วย งานเริ่มขึ้นช่วงแรกเป็นการแสดงของนักศึกษาผู้เข้าร่วมประกวด นั้นก็คือการร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยและการเต้นคุกกี้เสี่ยงทาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากลองเต้นมานานละ จนเวทีนี้ให้โอกาสผมได้ซ้อม ได้เต้นต่อหน้าท่านอธิการบดีและอาจารย์

    แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ

    และแล้วเวลาที่คอลอย เอ้ยยย ! รอคอยก็มาถึง พิธีกรเริ่มประกาศรางวัลต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่หลายรางวัลมากครับ จนมาถึงประกาศผลรางวัลสุดท้าย “นพรัตน์ทองคำฝ่ายชาย ประจำปี 2561 จะได้รับทุนการศึกษาในระดับปริญญาโท ได้เงินรางวัล 10,000 บาท โล่ สายสะพาย และเหรียญพระสิทธิธาดาเป็นของรางวัล ได้แก่หมายเลข 36 นายดำรงศักดิ์ สัตบุตร จากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์”

    รับรางวัล

    ในตอนแรกผมมีความมั่นใจที่จะได้รางวัลนี้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งนะครับ เพราะว่าเพื่อน ๆ ในฝ่ายชายทุกคนเก่งและโหดมาก คิดภาพง่าย ๆ ทุกคนที่เกรดเฉลี่ยเกิน 3.00 เป็นเด็กกิจกรรม ไม่ตกวิชาภาษาอังกฤษ ไม่มีความประพฤติเสีย จากทั่วทั้งมหาวิทยาลัยมาเข้าร่วมประกวด เพราะฉะนั้นผลงานทุกคนที่ออกมาล้วนอลังการงานสร้างทั้งหมด

    เคล็ดลับของความสำเร็จก็คงหนีไม่พ้นความตั้งใจครับ ตั้งใจทำในทุกกิจกรรม ใส่ใจในทุกรายละเอียด ถึงแม้เราจะไม่ได้รางวัลแต่ก็ถือว่าเราได้ทำเต็มที่สุดความสามารถของเราแล้ว อย่างน้อยที่สุดเราก็จะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลังว่าทำไมไม่ทำอันนี้

    เพื่อน ๆ ที่คอยมาให้กำลังใจ
    รางวัลทั้งหมดที่ได้รับ 1.) นพรัตน์ทองคำฝ่ายชาย 2.) ทักษะการนำเสนอดีเด่น และ 3.) ชมเชยนวัตกรรมสร้างสรรค์
    เพื่อน ๆ ผู้เข้าร่วมประกวดในปีนี้

    ภาพ : สายงานกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (2561)

  • เสริมเขี้ยวเล็บให้ WordPress ด้วยบริการ CDN จาก Azure

    เสริมเขี้ยวเล็บให้ WordPress ด้วยบริการ CDN จาก Azure

    CDN (Content Delivery Network) คือระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ กระจายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก โดยที่ระบบคอมพิวเตอร์เหล่านี้จะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อทำหน้าที่ในการส่งข้อมูล ไปถึงผู้รับให้เร็วที่สุด โดยใช้เครือข่ายที่ใกล้กับผู้รับมากที่สุด

    หากเว็บไซต์ของเราเป็นเว็บเล็ก ๆ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้คนในประเทศ คนเข้าใช้งานไม่สูงมาก CDN ก็อาจจะไม่จำเป็นสำหรับเว็บของคุณ แต่หากเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บขนาดใหญ่ มีการโหลดข้อมูลในปริมาณมหาศาล ทั้งยังมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้คนทั่วทั้งโลก CDN นี้แหละคือพระเอก ที่ช่วยเสริมเขี้ยวเล็บ เพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บของคุณ

    เริ่มต้นใช้งาน Azure CDN

    1. ที่แถบค้นหา พิมพ์คำว่า “CDN” หลังจากนั้นเลือกที่ CDN Profile

    Azure cdn profile

    2. สร้างโปรไฟล์ในการใช้งาน โดยการเลือกที่ “Create cdn profile”

    Create cdn profile

    3. ตั้งชื่อ Name เลือกโปรไฟล์การชำระเงิน Subscription ตั้งชื่อ Resource Group เลือก Location และ เลือกแพ็คเกจ Pricing tiers

    Detail azure cdn profile

    4. เมื่อสร้างโปรไฟล์สำเร็จ จะปรากฏหน้านี้ หลังจากนั้นให้คลิ๊กที่ชื่อ เพื่อจะเข้าสู่การตั้งค่าต่อไป

    Click profile

    5. คลิ๊กที่ +Endpoint หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Add and Endpoint ให้กรอกชื่อ Name ซึ่งจะเป็นลิงค์ CDN ของเราในอนาคต เลือกประเภท Origin type เป็น “Custom origin” ในช่อง Origin hostname ให้กรอก URL ของเว็บเรา หลังจากนั้นกด Add

    Add Endpoint

    กลับมาตั้งค่าที่ WordPress ในกรณีนี้ใช้ปลั๊กอิน WP Fastest Cache

    7. คลิ๊กที่ปลั๊กอิน WP Fastest Cache ที่แท็บด้านบนให้เลือกหัวข้อ CDN หลังจากนั้น ให้คลิ๊กที่ Other CDN Providers

    Setting cdn in wordpress

    8. ในช่อง CDN Url: ให้นำลิงค์จากขั้นตอนที่ 5 มาใส่ ส่วนในช่อง Origin Url ให้กรอก URL ของเว็บไซต์เรา

    Setting plugin

    9. หลังจากนั้นให้เลือกนามสกุลไฟล์ที่ต้องการให้เก็บไว้ที่ CDN

    File type

    10. คลิ๊ก Next

    Specify Source

    11. เสร็จเรียบร้อย คลิ๊ก Finish

    Finish

    ทดลองดูผลงานกันซักหน่อย

    หากพบปัญหา Error code 301 / 404 ให้ลองปรับแพ็คเกจตรง Pricing tiers เป็นแพ็คเกจอื่น เพราะแต่ละอันจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ทั้งฟีเจอร์และระยะเวลาในการจัดเตรียมไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์เราและเซิร์ฟเวอร์ของ Azure

    • For Azure CDN Standard from Microsoft profiles, propagation usually completes in ten minutes.
    • For Azure CDN Standard from Akamai profiles, propagation usually completes within one minute.
    • For Azure CDN Standard from Verizon and Azure CDN Premium from Verizon profiles, propagation usually completes within 90 minutes

    ข้อมูล : Troubleshooting Azure CDN endpoints that return a 404 status code
    ภาพ : Microsoft Azure

     

  • ทำเว็บย่อลิงค์ใช้เองง่าย ๆ แค่มีแค่โดเมนไม่ต้องพึ่งโฮส

    ทำเว็บย่อลิงค์ใช้เองง่าย ๆ แค่มีแค่โดเมนไม่ต้องพึ่งโฮส

    จากกรณีเว็บย่อลิงค์ชื่อดัง goo.gl จะยุติการให้บริการเร็ว ๆ นี้ ทำให้นักพัฒนา คนเขียนเว็บ ต่างต้องรีบปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนไปใช้ผู้ให้บริการรายอื่น หรือใช้บริการผลิตภัณฑ์ที่ทางกูเกิ้ลแนะนำ แต่แน่นอนว่าใช้แล้วมันก็ไม่เท่ ไม่สื่อถึงองค์กรของตัวเอง หากเรามีโดเมนชื่อสั้น ๆ อยู่ในมืออยู่แล้ว ก็นำโดเมนนั้นมาทำเป็นเว็บย่อลิงค์ซะเลย

    เริ่มใช้งาน Bit.ly

    สมัครใช้บริการเว็บไซต์ bitly.com หลังจากนั้นล็อกอินเข้าสู่หน้าจัดการ

    คลิ๊กที่ชื่อผู้ใช้งาน

    เลือก “Manage”

    หลังจากนั้นคลิ๊กที่ “Branded Short Domains”

    คลิ๊กที่ “Add branded short domain” หลังจากนั้นใส่ชื่อโดเมนที่ตนจะนำมาทำเว็บย่อลิงค์ ใช้ได้ทั้งโดเมนหลักและซับโดเมน หลังจากนั้นเลือก “Verify Domain”

     

    ยืนยันโดเมน

    ล็อกอินเข้าผู้ให้บริการ DNS ที่ทางโดเมนผูกอยู่ เพิ่ม DNS โดยเลือก Type เป็นชนิด A
    พิมพ์โดเมนที่เราใส่ไปใน Bit.ly ในกรณีของผมคือ t.dmg.st แต่เมื่อกรอกใส่ใน Cloudflare จะถูกตัดเหลือเพียงตัว t

    ตั้งค่า Value เป็น 67.199.248.12 หรือ 67.199.248.13

     

    เรียบร้อย เพียงเท่านี้เราก็พร้อมที่จะใช้งานเว็บย่อลิงค์โดยใช้โดเมนของเราแล้ว

    การใช้งาน

    เราสามารถสร้างลิงค์ย่อได้หลายช่องไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์โดยตรง หรือส่วนเสริมเบราว์เซอร์ต่าง ๆ ทั้งยังมีปลั๊กอินเฉพาะสำหรับ WordPress อีกด้วย

  • ทดลองแจ้งบัคไปยัง “ทรู” เกินคาดแก้เสร็จในหนึ่งวัน

    ทดลองแจ้งบัคไปยัง “ทรู” เกินคาดแก้เสร็จในหนึ่งวัน

    ประเด็นบัตรประชาชนหลุดกว่า 31.6 GB การปิดช่องโหว่ที่รอนานกว่าแรมเดือน ทำให้ความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของเครือข่ายนี้ลดน้อยลง แต่ทว่าการค้นพบบัคของ ดรศ เมื่อแจ้งไปแล้ว ทรูสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ภายในหนึ่งวัน

    เดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมมีปัญหาเกี่ยวกับโปรโมชั่นรายเดือน จึงได้มีความพยายามที่จะติดต่อไปยังคอลเซ็นเตอร์ของบริษัททรูเพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ก็อย่างที่ทุกท่านทราบดีว่าการติดต่อคอลเซ็นเตอร์ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายโทรศัพท์ ธนาคาร ผู้ให้บริการต่าง ๆ ล้วนติดต่อยากทั้งสิ้น ผมรอสายเกือบ 10 นาที จึงตัดสินใจตัดสายทิ้งและเลือกที่จะติดต่อทรูในช่องทางใหม่แทน

    ช่องทางใหม่นี้คือ True care chat มิหนำซ้ำกว่าคิวโทรที่รอนานคือในเวลาขณะนั้นเป็นเวลานอกทำการ จึงทำให้ไม่สามารถที่จะแชทคุยกับพนักงานได้ แต่แล้วตัวระบบก็ขึ้นป๊อปอัพสอบถามว่าจะติดต่อเรื่องอะไร เมื่อผมกดเข้าไปเรื่อย ๆ ระบบได้มีการสอบถามรหัสบัตรประชาชนกับเบอร์โทรศัพท์ เมื่อกรอกเสร็จเรียบร้อย หน้าเว็บไซต์ก็ขึ้นข้อมูลของผู้ใช้บริการ ในส่วนของยอดค้างชำระรายเดือน ค่าบริการรายเดือน เมื่อสังเกต URL ที่ปรากฏหมายเลขโทรศัพท์และบัตรประชาชนของผม ผมจึงเกิดความซนที่จะลองเปลี่ยนเป็นเบอร์รุ่นพี่ตน คุณพระ ! ขึ้นข้อมูลเหมือนกัน

    เมื่อผมได้ตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าเป็นบัค ไม่ใช่ฟังก์ชั่น จึงมีแนวคิดที่จะแจ้งไปยังทรูเพื่อให้ทราบ และปิดช่องโหว่ดังกล่าว แต่ในช่วงนั้นเป็นวันหยุดยาวสงกรานต์ ทั้งยังมีข่าวเกี่ยวกับหลุดของข้อมูลบัตรประชาชนกว่า 31.6 GB ผมจึงคิดว่าอยากจะทดสอบระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาของทรู ว่าจะยาวนานกว่ากรณีบัตรประชาชนหลุดหรือไม่

    19 เมษายน เวลา 20:25 น. ฤกษ์งามยามดี ประกอบกับอารมณ์ดีในการเขียนรายงาน จึงได้เขียนรายงานช่องโหว่ดังกล่าวไปประมาณ 6 บรรทัด พร้อมทั้งทิ้งท้ายข้อความว่าขอให้แก้ไขโดยเร็ว โดยผมได้เลือกช่องทางที่คิดว่าบริษัทนั้นน่าจะรับรู้เร็วที่สุดก็คือทางเว็บไซต์พันทิป หลังจากนั้นผ่านไป 18 นาที intelligence ขอรับเรื่องไปตรวจสอบ

    แจ้งปัญหาที่พบไปที่หลังไมค์พันทิปของทรู
    เริ่มแจ้งปัญหาไปยังพันทิป

    20 เมษายน เวลา 01:41 น. intelligence แจ้งว่าได้ดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว และจะรีบรายงานผลให้ผมทราบโดยเร็ว

    20 เมษายน เวลาประมาณ 19.30 น. หมายเลขคอลเซ็นเตอร์ทรู 1142 ได้โทรเข้ามา พร้อมแจ้งว่าได้ปิดช่องโหว่ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณที่ท่านได้กรุณาแจ้งช่องโหว่ดังกล่าวเข้ามา ทางทรูขอมอบอินเทอร์เน็ต 3GB ให้ใช้เป็นเวลา 12 รอบบิลครับ หลังจากนั้นผมได้ทดลองเข้าไปที่ลิงก์ที่ผมพบช่องโหว่ก็พบว่าช่องโหว่ได้ถูกปิดไปเรียบร้อยและขึ้นข้อความว่า “ขออภัย :(เราขอระงับการให้บริการในช่องทางนี้ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้”

    ทรูให้เน็ต 3GB 1 ปี

    ขอชื่นชมบริษัททรูในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวครับ ยอมรับว่าแก้ไขเสร็จภายใน 1 วัน ถือว่าเกินคาดสำหรับผมมาก

     

  • รีวิว Nu mobile ซิมเล่นเน็ตไม่จำกัด บริการใหม่จาก AIS

    รีวิว Nu mobile ซิมเล่นเน็ตไม่จำกัด บริการใหม่จาก AIS

    Nu mobile (อ่านว่า นิวโมบาย) แพ็คเกจใหม่จากทาง AIS เอาใจคนชอบเล่นอินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัด ไม่ลดสปีด มีโปรให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 299 บาท ความเร็ว 2Mbps ไปจนถึง 959 บาท ความเร็ว 10Mbps ชูจุดเด่นจัดการทุกอย่างผ่านอินเทอร์เน็ต

    ถอดทุกข้อจำกัดให้ชีวิตง่ายขึ้น

    ตาลายกับการเลือกหาเบอร์ กังวลว่าเน็ตหมดจะโดนคิดเงินเพิ่ม ทั้งยังงงงวยกับโปรโมชั่นที่ดูเหมือนจะคุ้มแต่ดอกจันบานเบอะ  Numobile ได้ถอดทุกข้อจำกัดเหล่านั้นให้หมดไป โดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกโปรโมชั่น เลือกเบอร์โทรศัพท์ ยืนยันตัวตน ปรับเปลี่ยนแพ็คเกจ ผ่านเว็บไซต์ https://numobile.io และแอปพลิเคชัน Nu mobile ได้อย่างง่ายดาย

    โปรโมชั่นหลากหลาย

    ซึ่งในทุก ๆ แพ็คเกจจะมีนาทีโทรจำนวน 100 นาทีและ SMS อีก 100 ข้อความ แนบไว้ให้ด้วย

    เข้าไปเป็นครอบครัวนิว

    เลือกโปร จับจองเบอร์ รอ 4 วัน พี่ไปรษณีย์ก็นำซองจดหมายมาส่ง

    Nu mobile letter
    ซิมถูกจัดส่งมาในซองสีดำ

    ไม่รอช้ารีบทำการแกะซอง เจอกระดาษ A4 หนึ่งแผ่นแนะนำวิธีเปิดใช้งานพร้อมซิม Nu mobile พระเอกในรีวิวนี้

    Nu mobile sim
    เจ้าซิม Nu มาในกรอบสีดำ

    จัดการใส่ซิมเข้าในตัวเครื่อง ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการยืนยันตัวตน ให้เราไปที่เว็บไซต์ kyc.numobile.io (*จำเป็นต้องใช้เน็ตจากซิม Nu) กรอกข้อมูลบัตรประชาชนและวันเกิด หลังจากนั้นระบบก็จะ Video call หาพนักงาน

    Nu mobile agent verification
    เพิ่งตื่นนอน สภาพเยี่ยงศพ

    เสียงตี๊ด 3 ตี๊ดผ่านไป ระบบนี้ทำสะพรึงมาก เพราะไม่ขึ้นภาพพรีวิวก่อนพนักงานจะกดรับ Video call เมื่อพนักงานกดรับ หน้าจอแสดงหน้าตัวเอง ตกใจไปแพร๊บหนึ่ง ในขั้นตอนนี้พนักงานจะให้เราแสดงบัตรประชาชน และยืนยันหมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต ที่เราได้ใช้ในการสั่งซื้อ เมื่อยืนยันข้อมูลถูกต้องครบถ้วน ถึงจะสามารถเข้าใช้งานได้

    จัดการผ่านแอป

    แอปถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนเมนูไม่เยอะ ครอบคลุมทุกมิติเกี่ยวกับการจัดการเบอร์โทรศัพท์ เปลี่ยนโปร ซื้อแพ็คเกจ จัดการบัตร ตรวจสอบการใช้บริการย้อนหลัง รวมไปถึงติดต่อพนักงาน

    ลองใช้จริง

    การใช้งานทั่วไป ค้นเว็บ ท่องโซเชียล สามารถใช้งานได้ตามปกติ ตามมาตรฐานเครือข่ายคุณภาพ AIS มีโหลดช้าบ้างเป็นบาง ดูคลิปวิดีโอจาก Youtube ความชัด 480p/720p ทำได้อย่างดี แต่ 1080p มี Buffer เป็นระยะ

    สรุป

    นิวโมบาย เป็นแพ็คเกจ (ไม่ใช่เครือข่าย MVNO) ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว หรือมีการแชร์ฮอตสปอตให้กับอุปกรณ์อื่น เนื่องจากนาทีโทรน้อยมาก เพียง 100 นาที ทุกแพ็คเกจ แม้กระทั้งแพ็คเกจที่แพงที่สุดก็ยังโทรได้แค่ 100 นาที ไม่เป็นลำดับขั้นเหมือนแพ็คเกจอื่นที่ AIS นิยมทำ ที่งงใจมากที่สุดคือ SMS 100 ข้อความ เหมือนจะพยายามยัดใส่เข้ามาในโปรโมชั่น แต่ยังไม่บุญทุ้มเท่า Line mobile ที่ให้ส่ง SMS ได้ไม่จำกัด